ท่านทั้งหลายครับ เราจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร ? เราก็ต้องมาดูในโอวาทปาฏิโมกข์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแนะนำให้เราสั่งสอนญาติโยมว่า
สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง ให้ละเว้นจากความชั่วทั้งปวง
กุสะลัสสูปะสัมปะทา ต้องสร้างความดีให้ถึงพร้อม
สะจิตตะปะริ โยทะปะนัง ชำระจิตของตนให้สะอาดผ่องใส
คราวนี้ถ้าเราจะมาถึงตรงนี้ได้ ก็ต้องยึดหลัก ยถาวาที ตถาการี พูดอย่างไรเราต้องทำอย่างนั้น เราจะไปสอนญาติโยมเขาว่าให้เว้นจากความชั่วทั้งปวง แล้วเราเว้นไหมครับ ? ผมนี่เดินเข้าตลาดแต่ละที ไอ้สิ่งที่รำคาญหูที่สุดก็คือ "หลวงพ่อ..ซื้อหวยสักชุดสิคะ" แล้วผมก็ดันเจอไอ้ประเภทนุ่งห่มแบบเราไปยืนล้อมแผงหวยซะด้วย..! แล้วคิดว่าจะไปบอกเขาว่าสัพพะปาปัสสะ อะกะระณังนี่ ใครจะเชื่อละครับ ? ก็ในเมื่อต้นแบบยังเป็นอย่างคำสอนไม่ได้เลย..!
เราก็ต้องมาดูในส่วนของประโยชน์ ๓ ครับ อัตตัตถะ ประโยชน์ส่วนตน ปรัตถะ ประโยชน์เพื่อผู้อื่น อุภยัตถะ ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
เราต้องแสวงประโยชน์ส่วนตนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ก่อน ต้องอยู่ในระดับที่มั่นคงเลยครับ ไม่อย่างนั้นแล้วกระผมเห็นมามากต่อมากด้วยกัน ก็คือตอนแรกตั้งใจจะบวชถวายชีวิต ตั้งใจจะกระทำทุกอย่างเพื่อพระพุทธศาสนา ท้ายสุด..แค่นี้ก็ไปไม่ได้ครับ กลายเป็นหลงอยู่กับลาภ ยศ สรรเสริญ สุข บำรุงบำเรอความสุขตัวเอง ต้องอยู่กุฏิทรงสเปน ติดแอร์ ติดม่านเสียรอบเลย ซักเองก็ไม่เป็น..! ถึงเวลาก็ต้องส่งร้านซักแห้ง ต้องนั่งรถหรู
วันก่อนเพิ่งปรารภกับผม "หลวงพ่อเล็ก ถวายรถตู้ให้ผมสักคันสิ ไม่ต้องมากหรอก ราคาสัก ๔ - ๕ ล้านก็พอ" ก็เลยบอกกับท่านไปว่า "ผมยังนั่งรถตรวจการณ์เก่า ๆ อายุ ๑๐ ปีอยู่เลย" เพื่อนบางรูปก็..โทรศัพท์ออกใหม่เมื่อไร กูเปลี่ยนทุกครั้ง กูมีใช้ทุกรุ่น..! แล้วถ้าท่านคิดว่า ถ้าเราเป็นแบบอย่าง ๆ นี้ เราจะสอนญาติโยมได้อย่างไรละครับ ?
เพราะนอกจากยถาวาที ตถาการี พูดอย่างไรทำอย่างนั้นแล้ว ยังต้องยถาการี ตถาวาทีอีก ก็คือทำอย่างไรพูดอย่างนั้น ถ้าท่านทำได้ ทุกอย่างจะขลังเองครับ ขลังตรงที่ว่าเราไม่มีนอกไม่มีใน ไม่มีหน้า ไม่มีหลัง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2025 เมื่อ 01:41
|