ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ภาระใหญ่ของพระพุทธศาสนาตกอยู่บนบ่าของพวกเรา ท่านทั้งหลายที่ศึกษามา โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วันแรกที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าส่งพระเถระ ๖๐ รูป ออกประกาศพระพุทธศาสนา พระองค์ตรัสว่า มุตตาหัง ภิกขะเว สัพพะปาเสหิ เย ทิพพา เย จะ มะนุสสา ตุมเหปิ ภิกขะเว สัพพะปาเสหิ เย ทิพพา จะ เย มะนุสสา เป็นคำกล่าวที่ต้องบอกว่า "อหังการสุด ๆ" แต่ก็เป็นความจริงนะครับ..!
มุตตาหัง ภิกขะเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราพ้นแล้ว
สัพพะปาเสหิ จากบ่วงทั้งปวง
เย ทิพพา เย จะ มะนุสสา ทั้งที่เป็นของทิพย์ และเป็นของมนุษย์
ตุมเหปิ ภิกขะเว ภิกษุทั้งหลาย แม้แต่พวกเธอด้วย
สัพพะปาเสหิ ก็พ้นจากบ่วงทั้งปวงแล้ว
พระพุทธเจ้าส่งบุคคลออกประกาศพระพุทธศาสนาด้วยการศึกษาครบถ้วน และเข้าถึงอย่างสุดยอดแล้ว แล้วท่านทั้งหลายลองนึกถึงพวกเราสิครับ ต้องขับเคลื่อนองค์กรพุทธบริษัท ๔ ไปด้วยล้อเดียวยังไม่พอ มีใครกล้าพูดไหมครับว่าตนเองพ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวง ? จึงเป็นภาระที่หนักหนาสาหัสมาก
แล้วหน้าที่ที่พระองค์กำหนดให้ละครับ หนักกว่านั้นอีก จะระถะ ภิกขะเว จาริกัง พะหุชะนะหิตายะ พะหุชะนะสุขายะ โลกานุกัมปายะ ขอเธอทั้งหลายจงจาริกไป อย่าแปลว่าจงเที่ยวไปนะครับ มีมหาเถระอยู่รูปหนึ่งที่คุ้นเคยกับผม เที่ยวเตลิดเปิดเปิงทั้งปีทั้งชาติครับ จำพรรษาปีละ ๑ ประเทศ ไม่รู้จะเอาเกียรติประวัติไปถึงไหน ? เขาบอกพระพุทธเจ้าบอกให้เที่ยว เพราะฉะนั้น..ผมต้องเที่ยว..! ไอ้นั่นตั้งใจแปลผิด หรือว่าแปลผิดแต่แรกก็ไม่รู้ !?
ท่านบอกว่า พะหุชะนะหิตายะ เพื่อประโยชน์ของชนหมู่มาก พะหุชะนะสุขายะ เพื่อความสุขของชนหมู่มาก โลกานุกัมปายะ เพื่ออนุเคราะห์แก่โลก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2025 เมื่อ 01:38
|