จากการประชุมหาแนวทางแก้ไข ๓ ครั้งที่ผ่านมา ส่วนของเราถือว่าเบาที่สุด เนื่องเพราะว่ายังมีส่วนที่ดินซึ่งทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิขอใช้งานอยู่ แล้วก็ศูนย์ป้องกันโรคติดต่อที่นำโดยแมลง เรียกง่าย ๆ ว่า "ศูนย์มาลาเรีย" ตลอดจนกระทั่งโรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิ..!
ในส่วนอื่น ๆ ไม่ขอกล่าวถึง มากล่าวถึงในเรื่องของทางด้านร้านค้าชุมชนวัดท่าขนุน เขาบอกว่าบุคคลที่จะอนุญาตให้ใช้งานได้ ไม่ใช่ผู้กำกับอย่างที่เราทำหนังสือขอไปแล้วได้รับอนุญาตมา หากแต่ว่าผู้ที่จะอนุญาตได้ก็ต้องเป็นคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น..!
จะว่าไปแล้ว เรื่องนี้คำสั่งออกมาให้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ และพยายามทำให้เป็นไปตามกฎหมายตั้งแต่ปี ๒๕๖๕ ท่านก็จะเห็นว่าผ่านผู้กำกับไป ๓ ท่าน ท่านอื่น ๆ ก็ปฏิบัติตามหลักรัฐศาสตร์ ก็คือยืดหยุ่นให้ชุมชนใช้งานได้ แต่ไปเจอรักษาการผู้กำกับ คงคิดว่าตนเองจะได้รับหน้าที่อยู่ยั้งยืนยง ขี้เกียจทนรำคาญกับการที่นักท่องเที่ยวไปเกะกะแถวหน้าบ้านพักของท่าน ก็เลยมาเล่นงานด้วยการมาเร่งรัด อ้างว่าเป็นคำสั่งของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น การประชุม ๓ ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งกระผม/อาตมภาพให้รองประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิเข้าประชุมแทน เขาให้ข้อสรุปมา ๓ แนวทาง ก็คือ
๑) ให้รื้อถอนเองโดยความสมัครใจ
๒) ดำเนินการตามกฎหมายบังคับให้รื้อถอน
๓) ยกให้เป็นสมบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กระผม/อาตมภาพก็ถามว่า "ถ้าหากว่าปฏิบัติตามแนวทางแรก จะมีหลักการดำเนินการอย่างไร ?" ท่านก็บอกว่ารื้อมาแล้วก็ต้องมาพิสูจน์ว่าไม้เป็นของใคร จริง ๆ กระผม/อาตมภาพอยากจะทำนะ คือให้ท่านค่อย ๆ ชี้ว่าไม้ท่อนไหนเป็นของท่านนี่น่าสนุกมากเลย..!
แล้ว "การปฏิบัติตามแนวทางที่ ๒ ใช้ระยะเวลานานเท่าไร ?" ก็คือบังคับโดยกฎหมายให้รื้อถอน ท่านก็บอกว่าท่านก็ต้องส่งเรื่องเข้าไปที่กองกำกับการจังหวัด กองกำกับการจังหวัดรายงานไปกองบังคับการเขต กองบังคับการเขตรายงานเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งลงมาก็บังคับใช้กฎหมายให้รื้อถอน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-03-2025 เมื่อ 02:09
|