เราท่านทั้งหลายจึงประมาทไม่ได้ เพราะว่ากิเลสนั้นหลอกเราอยู่เสมอ โดยเฉพาะในส่วนที่คิดว่า "ไม่เป็นไร" คำว่าไม่เป็นไรไม่สามารถที่จะใช้กับพระภิกษุสามเณรได้ เพราะว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ถ้าเราไปดูลักษณะของการต้องอาบัติ เราก็จะเห็นว่า ต้องโดยไม่รู้ ต้องโดยลืมสติ ต้องเพราะสำคัญว่าควรในของที่ไม่ควร โดนทุกรูปแบบ แต่ว่าเหตุผลในการต้องอาบัติที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องโดยไม่ละอาย รู้แล้วขืนทำลงไป พวกเรานอกจากจะต้องระมัดระวังแล้ว ยังต้องช่วยระมัดระวังให้เพื่อนสหธรรมิกด้วย
เมื่อวานกระผม/อาตมภาพคุยกับหลวงพ่อสิงห์โต (พระครูโสภณคุณาธาร) รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าอาวาสวัดสาลี บางปลาม้า มีโยมผู้หญิงมากราบ คุยด้วยพักหนึ่งแล้วขออนุญาตเอาอังสะไปส่งให้กับพระ ด้วยความที่เขาตรงไปตรงมา เขาก็บอกว่าจะเอาอังสะไปส่ง หลวงพ่อท่านก็บอกว่า "ถ้าหากว่าส่งอยู่ในลักษณะนี้ อีกไม่นานเดี๋ยวก็ได้ไปอยู่ด้วยกัน..!"
นั่นก็คือลักษณะของผู้ใหญ่ที่เห็นโลกมามาก เห็นว่าทุกอย่างจะเริ่มจากเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าลืมว่าแม้แต่ภิกษุใช้นางภิกษุณีซักจีวร ยังโดนอาบัติ พวกเราจึงต้องระมัดระวังไว้ให้มาก เพราะว่าเปิดโอกาสให้เมื่อไร กิเลสก็จะอาศัยเป็นข้ออ้าง ตอนนั้นยังทำได้ ตอนนี้ยังทำได้ แล้วข้ออ้างเหล่านั้นก็จะพาให้พระวินัยเสียหายมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงท่านบอกว่า "การแสดงอาบัติไม่ได้ทำให้ผลกรรมนั้นหายไป โทษของพระวินัยนั้นยังคงอยู่ ถ้าเหมือนกับร่างกายคน ผู้ที่ละเมิดพระวินัยก็คือเกิดแผลขึ้นในร่างกาย การแสดงอาบัติก็คือระงับแผลนั้นไว้แค่นั้น บาดแผลไม่ได้หายไปไหน แล้วถ้าหากว่ามีแผลมาก ๆ คนเห็นเข้าก็รังเกียจ" นั่นก็คือสิ่งที่จะทำให้ตัวเราเดือดร้อนยังไม่พอ วัดวาอาราม ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์ และพระพุทธศาสนาก็เดือดร้อนไปด้วย
ในปัจจุบันนี้จะมีการสั่งสอนกันอยู่ในหมู่พระเณรที่เรียนหนังสือ อย่างเช่นว่า "การเรียนหนัก ใช้สมองมาก เพราะฉะนั้น..จะกินอาหารเย็นบ้างก็ไม่เป็นไร กินแล้วก็ไปปลงอาบัติ" เขาสอนกันอย่างนี้จริง ๆ กระผม/อาตมภาพไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านถึงไม่เปิดสำนักเรียนในวัดท่าซุง ทั้งที่ทุกอย่างพร้อมหมด จะเปิดเมื่อไรก็ได้ เคยเรียนถามท่านแล้ว ท่านบอกว่า "ข้าไม่อยากเอาเหี้ยเข้าวัด..!" ชัดเจนมาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2025 เมื่อ 02:21
|