ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 25-03-2025, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,259 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างเช่นท่านให้คำแนะนำว่า "มหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้พิจารณาทบทวนมีคำสั่งห้ามภิกษุเป็นหมอดู ห้ามดูฤกษ์ยาม ห้ามเสก ห้ามเจิม ห้ามลงเลขลงยันต์ ห้ามรดน้ำมนต์ ห้ามสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา ห้ามทำพิธีกรรมนอกรีต ห้ามบวงสรวง ห้ามทำไสยศาสตร์ ห้ามปลุกเสก ห้ามจำหน่ายวัตถุมงคล ห้ามสร้างหรือนำวัตถุนอกศาสนามาในวัด" นี่แค่เป็นคำแนะนำเบื้องต้นของท่านเท่านั้น

ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ห้ามพระภิกษุของเราเลี้ยงอาชีพด้วยการเป็นหมอดู หรือว่าการดูฤกษ์ดูยาม
คำว่าเลี้ยงอาชีพก็คือทำมาหากินเป็นปกติทุกวัน เนื่องเพราะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ได้กำหนดไว้ว่า ให้ภิกษุบิณฑบาตเป็นการเลี้ยงชีพ

แต่ว่าการที่หลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์หลายต่อหลายท่าน ให้การอนุเคราะห์สงเคราะห์ต่อญาติโยมทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการดูฤกษ์ดูยาม หรือว่ารดน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์อะไรก็ตาม นั่นเป็นการกระทำด้วยความเมตตา สงเคราะห์ญาติโยมผู้ที่เลี้ยงดูตนเองมาด้วยปัจจัย ๔ อยู่ในลักษณะที่ว่าเป็นที่พึ่งให้แก่ญาติโยมได้


กระผม/อาตมภาพขอยกตัวอย่างหลวงปู่จง พุทฺธสโร วัดหน้าต่างนอก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้เป็นครูบาอาจารย์ร่วมสมัยกับหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ภรรยาของกำนันเถา กำนันตำบลบางนมโค ร้อนใจมาก เนื่องจากว่ากำนันเถาลงไปเมืองกรุง ก็คือกรุงเทพฯ นานเกือบเดือนแล้ว จึงมากราบเรียนหลวงปู่จง วัดหน้าต่างนอกว่า "ให้ช่วยดูหมอให้หน่อยว่า ตอนนี้กำนันเถาเป็นตายร้ายดีอย่างไร ?"

หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ตอนนั้นท่านถวายการรับใช้อยู่ข้าง ๆ หลวงปู่จง ก็เห็นหลวงปู่จงเปิดหนังสือตำราพรหมชาติ แล้วก็อ่านว่า "สิทธิการิยะ พระท่านว่า ขณะนี้กำนันเถาเอาเรือมาจอดที่หน้าบ้านแล้ว" ภรรยากำนันเถาก็ดีอกดีใจ กราบลากลับบ้านไป ปรากฏว่ากำนันเถามาถึงบ้านจริง ๆ..!

พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็สงสัยว่า "ตำราอะไรมีระบุชื่อคนแบบนี้ด้วย ?" จึงเปิดดูหน้าที่หลวงปู่จงท่านเอากระดาษคั่นเอาไว้ ปรากฏว่าเป็นตำรานาคสมพงษ์ในการดูเนื้อคู่ หลวงพ่อท่านถึงกับหัวเราะ แสดงว่าการดูหมอของหลวงปู่จง เพื่อสงเคราะห์ญาติโยมผู้เดือดร้อนนั้น ท่านไม่ได้ใช้ตำราพรหมชาติ แต่เป็นการดูด้วยทิพจักขุญาณ นี่ก็คือการอนุเคราะห์สงเคราะห์แก่ผู้เดือดร้อนซึ่งมาพึ่งเย็น โดยมีหลวงปู่หลวงพ่อทั้งหลายเหล่านั้นเป็นที่พึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2025 เมื่อ 00:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา