ครั้นออกมาทางด้านข้างพิพิธภัณฑ์ของวัด ต้องจ่ายอีกคนละ ๗๐๐ เยนถึงจะเข้าชมได้ กระผม/อาตมภาพจึงชี้ให้ทุกคนดูรูปแปดเทพอสูรมังกรฟ้าพิทักษ์พระพุทธซึ่งเป็นรูปในโบรชัวร์แทน เนื่องเพราะว่ารูปภายในก็ประมาณนี้เท่านั้น
จากนั้นพวกเราก็เดินออกไปทางด้านนอกเพื่อที่ไปต่อรถเมล์ ครั้นขึ้นรถแล้วก็ย้อนกลับมายังสถานีรถไฟเมืองนารา แต่ขากลับนั้นกลับกลายเป็นการนั่งรถไฟแค่ต่อเดียวเท่านั้น เมื่อสอบถามแล้วผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ขึ้นอยู่กับการจัดตารางรถ ซึ่งตอนเช้าต้องนั่งสองต่อ ถ้าตอนบ่ายก็นั่งต่อเดียวอะไรประมาณนี้
พวกเรามาลงรถไฟที่สถานีกลางโอซากาแล้ว ก็ยังงง ๆ อยู่พักใหญ่ เนื่องเพราะว่าประตูออกมีทั้ง ๔ ทิศ จนท้ายที่สุดก็ใช้วิธีเปิดกูเกิ้ลแม็พ เพื่อเดินทางกลับยังที่พักของพวกเรา ทุกคนอยู่ในลักษณะที่ทั้งเหนื่อย ทั้งเพลีย ประมาณว่าแทบจะไร้แรงบินแล้ว จึงพากันกลับขึ้นห้องพักของตนเอง เพื่อเก็บแรงเอาไว้ในการเที่ยววันพรุ่งนี้ กระผม/อาตมภาพเมื่อบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้เสร็จแล้วก็ว่าจะพักเหมือนกัน
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-03-2025 เมื่อ 23:06
|