วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่โรงแรม DEL Style Osaka - Shin Umeda ซึ่งอยู่ในเขตฟูกุชิมะ เมืองโอซากา ช่วงเช้าอยู่ที่ ๔ องศาเซลเซียส ทางโรงแรมเปิดห้องอาหารให้ตอน ๐๖.๑๕ น. ตามเวลาที่ประเทศญี่ปุ่น ถ้านับเป็นเวลาเมืองไทยก็ราว ๆ ๐๔.๑๕ น.
ข้าวปลาอาหารนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นบุฟเฟต์ ตักเท่าไรก็ได้ แต่กระผม/อาตมภาพเคยชินกับการปฏิบัติแบบพระ ก็คือตักครั้งเดียว นั่งลงฉันเสร็จก็เลิกกันไปเลย จึงทำให้รู้สึกว่าข้าวปลาอาหารของที่นี่ ถ้าสำหรับบุคคลทั่วไปแล้วก็คงประมาณว่าแค่ฉันรองท้องเท่านั้น..!
เสร็จจากมื้ออาหารเช้า หลายคนก็กลับขึ้นห้องพัก เข้าห้องน้ำจนเรียบร้อย แล้วพวกเราก็เดินฝ่าลมหนาวไปยังสถานีกลางโอซากา เพื่อที่จะขึ้นรถไฟไปยังเมืองนารา ซึ่งรถไฟต่อรถแรกของเรานั้น ไปลงที่สถานีเท็นโนจิ แล้วต่อรถไฟช่วงที่สองไปยังเมืองนารา
เมื่อลงรถไฟที่สถานีรถไฟนาราแล้ว พวกเราก็ต้องมาซื้อบัตรสำหรับขึ้นรถเมล์ เพื่อไปยังวัดโทไดจิ เขตเมืองนาราชิ ซึ่งนาราชิก็คือนาราใหม่นั่นเอง การซื้อบัตรที่นี่สะดวกสบายมาก เนื่องเพราะว่าใครมีบัตรเก่าอยู่ ก็สามารถเอามาเติมเงินแล้วก็ขึ้นรถเมล์ได้ ค่ารถเมล์คนละ ๒๕๐ เยน
พอพวกเราเริ่มเข้าเขตนาราชิ ก็เห็นแต่ฝูงกวางเดินตามนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด แต่เราต้องเลยจากจุดนั้นไปอีก ๒ ป้ายแล้วถึงได้ลง เพื่อที่จะตรงไปยังวัดโทไดจิ ซึ่งสร้างมาประมาณ ๑,๒๐๐ ปีแล้ว จัดว่าเป็นวัดที่มีวิหารไม้ ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เนื่องเพราะว่าวิหารไม้แบบนี้ หลังแรกนั้นโดนไฟไหม้ไป ซึ่งใหญ่กว่าหลังปัจจุบันนี้อีก
เมื่อพวกเราข้ามถนนไป ก็เจอกับฝูงกวางนอนตากแดดเคี้ยวเอื้องอยู่เต็มไปหมด ทิดโฮป (นายกฤตบุญ ปัญจรัตนากร) จัดการซื้ออาหารเลี้ยงกวางชุดละ ๒๐๐ เยน มอบให้กระผม/อาตมภาพทำการเลี้ยงพวกกวางทั้งหลาย ซึ่งพอเห็นว่ามีอาหารก็ลุกขึ้นมารุมล้อมเต็มไปหมด ตัวไหนถ้าหากว่าชักช้าไม่ทันใจก็ดึงจีวรบ้าง ดึงผ้าคลุมบ้าง เพื่อให้หันไปเลี้ยงตนเอง บางตัวก็โค้งแล้วโค้งอีกเพื่อขออาหาร ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนสอนเอาไว้..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-03-2025 เมื่อ 22:53
|