พวกเราลงที่สถานีรถไฟเท็นโนจิ แต่ว่าไม่ได้ตรงไปยังแหล่งเที่ยวตามที่ตั้งใจไว้ หากแต่ว่าไปเข้าร้านอาหารซึ่งอยู่ใต้ดินและคับแคบมาก ๆ ต้องไปรอคิวอยู่พักใหญ่ กว่าที่จะมีโต๊ะว่างให้เข้าไปนั่งได้ บนโต๊ะนั้นอยู่ในลักษณะเหมือนอย่างกับเป็นกระทะแบน ๆ มีไฟติดอยู่ข้างล่าง
ตอนแรกคิดว่าเขาแค่ให้อุ่นอาหารเท่านั้น แต่ปรากฏว่าเมื่ออาหารมาถึง ทางด้านพ่อครัวก็วางลงไปบนนั้นเลย สรุปว่า ๔ คน ไม่ว่าจะสั่งอาหารอะไรก็ตาม ทุกอย่างก็จะมีมุมของตนเองให้ลง จะแบ่งกันกินหรือจะกินเฉพาะของตนก็ไม่มีใครว่าอะไร กระผม/อาตมภาพปกติเจอแต่อาหารญี่ปุ่นรสจืด ๆ ยกเว้นบางแห่งที่อูด้งค่อนข้างจะเค็ม แต่ว่าอาหารของร้านนี้รู้สึกว่าจะเค็มไปเสียทุกอย่าง เมื่อฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ออกมาคิดเงิน ก็ปรากฏว่าพวกเรากินไปค่อนข้างที่จะมากทีเดียว
ครั้นจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วก็เดินไปยังวัด Shitennoji ซึ่งถ้าหากว่าเป็นภาษาจีนก็คือ สื่อเทียนหวังซื่อ ก็คือวัดสี่ท้าวมหาราช ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดวัดหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่แล้วคนก็จะไปไหว้พระขอพรกัน โดยปกติแล้วต้องเสียค่าเข้าชมวัดคนละ ๓๐๐ เยน แต่วันนี้เขาติดป้ายว่าฟรี เนื่องเพราะว่ามีตลาดนัดเปิดในบริเวณวัด เมื่อพวกเราไหว้พระแล้วจึงได้เดินดูสินค้าต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีใครซื้อหาอะไร เนื่องเพราะว่าถ้าซื้อตั้งแต่วันแรกก็คงจะได้หอบติดตัวเป็น "ไอ้บ้าหอบฟาง" ไปจนตลอดทริป
ครั้นเดินดูจนทั่วหมด ทั้งวัดชั้นในและวัดชั้นนอก ยกเว้นไม่ได้เดินขึ้นหอกลาง เพราะว่าต้องถอดรองเท้าแล้วหิ้วขึ้นไป อากาศเย็น ๆ แบบนี้ คาดว่าเหยียบลงไปบนบันไดก็คงไม่ต่างจากเหยียบน้ำแข็งเท่าไรนัก พวกเราก็เลยสละสิทธิ์ เดินย้อนกลับมาเพื่อที่จะไปขึ้นรถไฟที่สถานีเท็นโนจิ
พวกเราได้แวะเข้าไปใน Family Mart ซึ่งกระผม/อาตมภาพตั้งใจจะไปหาชาเขียวอุ่น เพื่อที่จะฉันตามความเคยชินในลักษณะของคนติดน้ำร้อน แต่ว่าเป้าหมายใหญ่ของทั้งคณะก็คือตั้งใจที่ไปแลกแบงค์ย่อย เพราะว่าส่วนใหญ่ที่ติดตัวมาก็คือใบละ ๑๐,๐๐๐ เยนทั้งนั้น ก็เลยได้สมประโยชน์ด้วยกันทั้ง ๒ ฝ่าย ก็คือได้ซื้อน้ำดื่มด้วย แล้วก็ได้แลกแบงค์ย่อยด้วย
เสร็จสรรพเรียบร้อย ก็เดินยิ้มกริ่มไปยังสถานีรถไฟเท็นโนจิ นั่งรถไฟไปลงสถานีปราสาทโอซากา เริ่มมีฝนตกเปาะแปะลงมา ตั้งแต่เช้ามาจนบัดนี้ มีโอกาสเห็นแดดออกอยู่แค่ช่วงเดียว ตอนที่เดินออกจากโรงแรมมาสถานีรถไฟ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็มืดมัวสลัวตา แล้วฝนก็มาพรำลง ทำให้คณะของเราไปแวะซื้อร่ม ซึ่งแทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลย เพราะว่าฝนตกลงมาเพียงครู่เดียวก็ขาดเม็ด
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-03-2025 เมื่อ 01:53
|