กระผม/อาตมภาพมีหน้าที่ยืนพรมน้ำมนต์ให้กับญาติโยมที่หลั่งไหลออกจากศาลา ๑๒ ไร่เมื่อเสร็จงานแล้ว ผลก็คือใช้เวลาพรมน้ำมนต์อยู่เป็นชั่วโมง ๆ จนกระทั่งน้ำที่บรรจุอยู่ในแท็งค์ ๒,๐๐๐ ลิตรหมดเกลี้ยง ตัวกระผม/อาตมภาพซึ่งโดนน้ำมนต์ทีละหยดสองหยด จากการพรมให้กับญาติโยมที่หลั่งไหลจากประตู ๑๒ ไร่ออกมา จนกระทั่งตัวเองนั้นเปียกโชกไปทั้งตัว เหมือนอย่างกับเอาน้ำราดตนเองเป็นถัง ๆ เลย..!
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเสร็จงานแล้ว กระผม/อาตมภาพยกแขนไม่ขึ้นไป ๗ - ๘ วัน ก็คือล้าจนกระทั่งไม่มีแรงแม้แต่จะยกแขนตัวเอง เพราะว่าพรมน้ำมนต์ให้กับญาติโยมที่หลั่งไหลออกมาเป็นชั่วโมงทีเดียว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กระผม/อาตมภาพก็เข็ดผู้คนจำนวนมาก ๆ และพยายามหนีงานที่มีคนมาก ๆ มาโดยตลอด
การที่ไปยังศาลา ๑๒ ไร่ในครั้งนี้ กระผม/อาตมภาพยังบอกกับท่านเจ้าคุณพิชิตชัย - พระราชปัญญาโสภณ (พิชิตชัย อภิชโย ป.ธ. ๗) รองเจ้าคณะภาค ๑๓ วัดบพิตรพิมุข ว่า "กลับมาเยี่ยมบ้านเก่า" แล้วก็หัวเราะเฮฮากัน
เนื่องเพราะว่าตัวกระผม/อาตมภาพก็ดี พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรสุนทร (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ. ๔) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรีก็ดี ท่านเจ้าคุณพิชิตชัยก็ดี หรือว่าหลวงพ่อพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร ป.ธ. ๗) ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๗ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่ทำงานเกี่ยวกับการตรวจประเมินเพื่อยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งงานนี้ไม่ว่าจะเป็นกรรมการหลัก หรือว่าคณะอนุกรรมการก็ไปกันมากมาย จนกระผม/อาตมภาพบอกว่า น่าจะเปิดประชุมคณะกรรมการเรื่องเกี่ยวกับการตรวจยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบที่นี่กันได้เลย ทำเอาทุกคนหัวเราะเฮฮาชอบใจกันมาก
เมื่อถึงเวลา ญาติโยมทั้งหลายซึ่งหลั่งไหลกันไปในศาลา ๑๒ ไร่จนน่าชื่นใจ ก็ร่วมกันสมาทานศีล และฟังพระเจริญพระพุทธมนต์ ตามมาด้วยการกล่าวสัมโมทนียกถา โดยพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธ์ เขมงฺกโร) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ประธานคณะกรรมการสาธารณสงเคราะห์คณะสงฆ์ไทย เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดโพธิ์ แล้วก็ร่วมกันทำบุญ ก็คือให้บรรดาผู้ที่ได้รับนิมนต์ไปร่วมงาน นั่งเป็นเนื้อนาบุญให้ญาติโยมทั้งหลายได้ร่วมทำบุญ ซึ่งญาติโยมที่เห็นกระผม/อาตมภาพแล้วดีอกดีใจ เฮกันเข้ามาทำบุญ โดยที่ก้าวข้ามบรรดาเด็ก ๆ ที่กั้นเป็นเลนให้เดินไปเลยก็มี จนเจ้าหน้าที่ต้องมาตักเตือนว่าให้เดินไปตามลำดับ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-03-2025 เมื่อ 01:36
|