แต่ว่าบางท่านเองสร้างพระเครื่องหรือวัตถุมงคลออกมา ในลักษณะของการครอบจักรวาล ก็คือดีไปทุกด้าน ซึ่งประกอบไปด้วยพระสมเด็จวัดระฆัง ของ หลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) หรือว่าพระ ๖ กษัตริย์ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค พระสมเด็จของขวัญ หลวงปู่สด วัดปากน้ำภาษีเจริญ หรือแม้กระทั่งมารุ่นหลัง ๆ อย่างสมเด็จองค์ปฐม หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ถ้าประเภทนี้ของท่านก็พกองค์เดียวเที่ยวทั่วโลกได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปพกพาอะไรมากมาย
แต่ว่าความรักความชอบของแต่ละคนต่างกันไป ท่านไหนที่ถนัดด้านบู๊ ต้องการคงกระพัน มหาอุดก็แสวงหาครูบาอาจารย์ที่ตนเองมั่นใจ อย่างเช่นว่าตะกรุดหลวงปู่ภู วัดดอนรัก ซึ่งหลวงปู่ภู วัดดอนรักนี้ต้องบอกว่าสุดยอดมหาอุดจริง ๆ ก็คือคนอื่นยิงเราก็ไม่ออก เราจะยิงคนอื่นก็ไม่ออกอีกด้วย..!
กระผม/อาตมภาพเจอวัตถุมงคลแบบนี้ก็ "หัวร่อไม่ออก ร่ำไห้ไม่ได้" เพราะว่าทำอะไรเขาก็ทำไม่ได้ เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้เหมือนกัน เพราะว่าอุดอย่างเดียวจริง ๆ หรือไม่ก็เอาประเภทเหนียวสะเด็ดยาด แมลงวันไม่ได้กินเลือด อย่างหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ก็ไม่ว่ากัน
ดังนั้น..ท่านที่ถามว่าจะพกพระเครื่องหรือว่าเครื่องรางดี ก็ขึ้นอยู่กับจริตนิสัยของแต่ละคน กระผม/อาตมภาพนั้นมีความรักชอบในเครื่องรางเป็นอย่างมาก แต่ว่าอะไรก็ตาม ต้องอาศัยคุณพระนำหน้า จึงต้องพกพระติดองค์ไปด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นพระสมเด็จองค์ปฐม หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงก็ดี หรือว่าพระ ๒๕ พุทธศตวรรษ เนื้ออะไรก็ตามถ้าอยู่ใกล้มือ เหล่านี้เป็นต้น
ส่วนเครื่องรางอื่น ๆ ก็พกไปตามแต่ว่าจะใช้ในเหตุการณ์ใด ๆ แต่ที่ติดรถติดตัวอยู่เป็นประจำเลยก็ต้องมีเบี้ยแก้ และมีดหมอ เผื่อเอาไว้ฉุกเฉิน ก็คือนอกจากป้องกันอันตรายสำหรับตนเองแล้ว ก็ยังสามารถที่จะช่วยเหลือคนอื่นเขาได้อีกด้วย
เนื่องเพราะว่าการพกวัตถุมงคล บางทีก็เหมือนอย่างกับตำรวจ ทหาร ที่มีอาวุธติดตัว บุคคลอื่นเห็นก็ต้องเกรงใจเป็นธรรมดา ถ้าเราคิดว่าสมาธิดี สภาพจิตเข้มแข็ง คาถาเข้มขลัง เราจะไม่พกอะไรเลยก็ได้ แต่หลวงพ่อฤๅษีฯ เคยเตือนกระผม/อาตมภาพว่า "แกประมาทจนเกินไป เพราะว่าคนเราสติไม่ได้สมบูรณ์ โอกาสที่จะเผลอย่อมมี"
ดังนั้น..ทางที่ดีให้หาวัตถุมงคลที่ปลุกเสกโดยอาศัยบารมีของพระ ของพรหม ของเทวดา ท่านสงเคราะห์ ท่านทั้งหลายเหล่านี้ไม่มีวันเผลออยู่แล้ว เมื่อเราอาราธนาแล้ว ต่อให้เราลืม ท่านก็คุ้มครองให้ ดังนี้เป็นต้น เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ตัดสินให้ไม่ได้ว่าจะพกพาอะไรบ้าง ยกให้เป็นความรักชอบส่วนตัวของแต่ละคนไปก็แล้วกัน
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2025 เมื่อ 01:06
|