กระผม/อาตมภาพเองกับพรรคพวกเพื่อนฝูงพี่น้องแค่ไม่กี่คน สมัยก่อนแบกระเบียบวัดเอาไว้จนหลังแอ่น สิ่งใดที่ครูบาอาจารย์สั่งคือสิ่งที่ต้องทำตลอดชีวิต โดยเฉพาะท่านบอกว่า "หมาของข้าสั่งครั้งเดียว มันทำตลอดชีวิต ถ้าข้าสั่งแล้วพวกแกทำตลอดชีวิตไม่ได้ก็เลวยิ่งกว่าหมา..!" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ใครที่รู้จักกำหนดจดจำ ทำตามที่ครูบาอาจารย์สอน ทำตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเอาไว้ ท้ายสุดก็ออกมาเป็นหลักให้แก่ญาติโยมเขาได้ ส่วนที่เหลือนั้นเอาตัวไม่รอดอย่างที่เห็น..!
โดยเฉพาะโลกยุคปัจจุบัน สิ่งยั่วยุเราให้หลุดจากศีลมีมาก เราไม่รู้จักสร้างกำลังเพื่อที่จะหักห้ามตนเอง ก็แปลว่าเราพร้อมที่จะตาย ไม่ต้องไปหวังเลยว่าบวชมาแล้วจะเอาดีได้ ก็ในเมื่อเรื่องหยาบ ๆ ที่เป็นแค่ระเบียบวินัย หรือว่าสิ่งที่จำเป็นที่ต้องปฏิบัติของพระภิกษุสามเณร เรายังทำไม่ได้ แล้วจะไปพูดอะไรถึงเรื่องของมรรคเรื่องของผล ที่เป็นเรื่องละเอียดกว่านั้นจนนับไม่ได้ ดังนั้น..หลายสิ่งหลายอย่างที่กระผม/อาตมภาพบอกพวกเราไปอยู่เสมอ แต่ก็มักจะกลายเป็นคำพูดผ่านหู แทบจะไม่มีใครสนใจนำมาปฏิบัติขัดเกลาตนเองอย่างจริงจังเลย
ถ้าอยู่ในลักษณะอย่างนี้แล้ว ที่เราปฏิญาณตนว่า "ขอรับผ้ากาสาวพัสตร์นี้มา เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน" ก็ไม่ต้องหวัง เพราะว่าระเบียบวินัยทุกอย่างก็คือการที่นำเราให้เดินตรงทาง ทางนี้ก็คือมรรค ๘ ซึ่งเป็นหนทางที่จะนำพาสัตว์ทั้งหลายไปสู่ความบริสุทธิ์ ย่อลงมาคือ ศีล สมาธิ ปัญญา
ระเบียบวินัยทุกอย่างก็คือศีล ความตั้งใจเพียรพยายามรักษาเอาไว้ นั่นก็คือการสร้างสมาธิ เพราะว่าสภาพจิตที่เพียรระมัดระวัง ไม่ให้ตนเองละเมิดระเบียบหรือวินัย ก็คือการสร้างสมาธิโดยตรง แล้วแค่นั้นก็ยังไม่เพียงพอ เพราะว่าเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเวลาในการชำระใจของตนเองอย่างเด็ดขาดและจริงจังทุกวัน
ดังนั้น..บรรดาผู้ที่เคยพบกระผม/อาตมภาพสมัยบวชอยู่ที่วัดท่าซุงจะเห็นความต่างอย่างชัดเจน เพราะว่าตอนนั้นกระผม/อาตมภาพแทบจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เนื่องจากว่าปฏิบัติทั้งกลางวัน ทั้งกลางคืนโดยไม่ได้สนใจเวลา คืนหนึ่งนอนเต็มที่ก็ไม่เกิน ๒ ชั่วโมง ที่เหลือก็ทุ่มเทให้กับการปฏิบัติธรรมชนิดที่เอาชีวิตเข้าแลก แล้วสิ่งที่พวกท่านทั้งหลายทำคืออะไร ? ตามใจปากตนเอง ละเมิดระเบียบ ละเมิดวินัย ละเมิดคำสั่งครูบาอาจารย์ แล้วหวังว่าตนเองจะได้ดี ก็น่าจะเป็นไปได้อยู่มั้ง ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-03-2025 เมื่อ 03:10
|