ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 07-03-2025, 00:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นแล้วก็ยังมีที่ดินป่าสงวน ซึ่งที่ดินป่าสงวนนั้น ส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็โดนทำให้เป็นป่าเสื่อมโทรม เพื่อที่จะให้ง่ายต่อการขอใช้พื้นที่ เพราะว่ากฎหมายเกี่ยวกับป่าสงวนนั้นไม่ได้หนักมาก มีข้อบังคับแค่ว่าบุคคลซึ่งใช้พื้นที่ป่าสงวนนั้น ต้องปลูกต้นไม้คืนไป ๒๐ เปอร์เซ็นต์ อย่างเช่นว่าถ้าขอใช้ที่ดิน ๑๐ ไร่ ก็ต้องปลูกป่าไป ๒ ไร่ เป็นต้น

ต่อมาก็คือที่ดินอุทยาน ซึ่งส่วนนี้ยากแล้ว เพราะว่ากฎหมายเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาตินั้นลำบากมาก คุณไม่สามารถที่จะขอใช้พื้นที่ใด ๆ ได้เลย ทั้งที่อุทยานของจังหวัดกาญจนบุรีส่วนใหญ่นั้น ประกาศขึ้นหลังจากที่ชาวบ้านไปตั้งที่อยู่อาศัยกันมาก่อน บางแห่งก็หลาย ๑๐ ปี บางแห่งก็เป็น ๑๐๐ ปี

ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือที่ดินของบ้านกะเหรี่ยงบางกลอย จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเขาอยู่กันมา ๒๐๐ - ๓๐๐ ปี แต่พอมาประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติหรือว่าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ก็ไปขับไล่พวกเขาออกมา แล้วในส่วนที่จัดสรรให้นั้น ก็ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องว่าจะสามารถทำกินได้จริงหรือเปล่า ?

อย่างเช่นที่ดินของสหกรณ์นิคมทองผาภูมิของเรา ซึ่งจัดสรรให้โดยที่คนจัดสรรนั้นเป็นคนกรุงเทพฯ มีรสนิยมสูง เห็นว่าที่ดินภูเขาสูง ๆ ต่ำ ๆ นั้น
ทิวทัศน์สวยมาก ถ้าหากว่าสร้างบ้านแล้วจะดูงดงาม แต่ไม่ได้คำนึงว่าเขาจะหาที่ราบสำหรับเพาะปลูกอย่างไร ชาวบ้านก็ต้องปรับตัว แทนที่จะเพาะปลูกพืชผลอะไรที่ง่าย ๆ ก็ต้องไปปลูกไม้ยืนต้น แล้วผลไม้ยืนต้นกว่าที่จะออกดอกออกผลให้ได้จำหน่ายก็ไม่ต่ำกว่า ๓ ปี ๕ ปี

ในระหว่างที่ทำกินอยู่ พอถึงเวลาปลดหม้อข้าว ขวดน้ำลงเพื่อที่จะทำไร่ ปรากฏว่าหม้อข้าวกลิ้งไปอยู่ตีนเขาโน่น..! เป็นการจัดสรรที่ดินให้โดยที่ไม่ได้ใช้สายตาของบุคคลที่จะทำกิน หากแต่ว่าใช้สายตาของคนกรุงเทพฯ ที่เห็นว่าทิวทัศน์แบบนี้สวยมาก ทำเอาบรรดาผู้ที่ได้รับจัดสรรที่ดินอยากจะร้องไห้ไปตาม ๆ กัน..!

ในระยะแรกไปอาศัยอยู่ที่สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี กระผม/อาตมภาพเข้าไปช่วยเหลือเรื่องการทำกินของพวกเขาอยู่ ๙ ปี จึงซาบซึ้งปัญหานี้ดีที่สุด เพราะว่าต้องควักกระเป๋าซื้อพันธุ์ไม้ผลดี ๆ ให้เขาไปปลูก หมดเงินไปจนนับไม่ถ้วน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-03-2025 เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา