วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ช่วงนี้คณะสงฆ์ของเราก็มีหลายเรื่องประเดประดังกันเข้ามา เรื่องใหญ่ก็คือการทุจริตในการสอบบาลีที่ผ่านมา เนื่องเพราะว่ามีการจ้างผู้อื่นให้สอบแทน แล้วตอนนี้ผู้ว่าจ้างก็โดนเจ้าคณะจังหวัด สั่งถอดออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส และตำแหน่งเจ้าคณะตำบลด้วย
เรื่องพวกนี้มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย ทุกท่านต้องทำความเข้าใจว่า พระภิกษุสามเณรก็คือลูกชาวบ้าน แค่เปลี่ยนกฎเกณฑ์กติกาในการดำเนินชีวิต เปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอก แต่ว่ายังคงมี รัก โลภ โกรธ หลง เต็มหัวอยู่เหมือนเดิม โดยเฉพาะบุคคลที่ตั้งใจบวชเข้ามาเพื่อเรียนโดยเฉพาะ ก็คือตั้งใจแสวงความก้าวหน้าจากการเรียน
ถ้าท่านรู้จักสังเกตจะเห็นว่าบรรดาผู้ที่ได้มหาเปรียญก็ดี เป็นพระครูสัญญาบัตร หรือว่าเป็นพระราชาคณะก็ตาม ถึงเวลาทางหมู่บ้านของตน ทางตำบลของตน ทางอำเภอของตน ทางจังหวัดของตน ตั้งข้อเรียกร้องไว้สูงมาก ก็คือจะให้กลับไปช่วยเหลือทางบ้านอย่างเดียว ในเมื่อตัวบุคคลยังเป็นปุถุชน หนาด้วยกิเลส แล้วก็ยังโดนเรียกร้องด้วยกิเลสของคนรอบข้าง ก็ยิ่งต้องดิ้นรนเพื่อตัวเองมากขึ้น แล้วท้ายที่สุด ความละอายชั่วกลัวบาปก็หมดไป กลายเป็นเรื่องเป็นราว เป็นข่าวกันขึ้นมาอย่างที่เห็น
คราวนี้เรื่องนั้นไม่ขอกล่าวถึง จะมากล่าวถึงวิธีการจัดการกับเรื่อง ก็คือถ้าหากว่าผู้คุมสอบเห็นว่ามีการทุจริต ก็แค่เก็บกระดาษข้อสอบมากาหัว แล้วก็เชิญผู้สอบออกจากห้องสอบไปก็จบแล้ว นี่ไม่ใช่การช่วยปกปิดความผิด แต่ว่าเป็นการช่วยไม่ให้ศาสนาบอบช้ำไปมากกว่านี้ พูดง่าย ๆ ว่าจัดการเรื่องราวโดยมองความสำคัญของภาพรวมมากกว่าส่วนตน
ไม่ใช่คิดว่าเราเป็นกรรมการ เราจับทุจริตได้ เราจะต้องโด่งดัง แล้วกระทำการโฉ่งฉ่างจนออกสื่อมวลชน ท่านดังก็จริง แต่ศาสนาบอบช้ำไปมากมาย มีแต่คนช่วยกระหน่ำซ้ำเติม เพราะการกระทำของเราที่ไม่ควร ถ้าหากว่าเราจัดการกันอย่างเงียบ ๆ แล้วก็ไปลงโทษกันทีหลัง เรื่องพวกนี้ไม่ดังขึ้นมา ศาสนาก็ไม่บอบช้ำอย่างที่เห็น..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-03-2025 เมื่อ 02:16
|