หลังจากนั้นก็พาดสายสิญจน์เส้นหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวรับเคราะห์ทั้งหมดไว้ที่พานสะเดาะเคราะห์ หลังจากพิธีแล้วมอบให้ผู้หนึ่งผู้ใดไปลอยน้ำแทนเจ้าของก็ได้ ส่วนกระผม/อาตมภาพก็ผูกข้อมือรับขวัญให้กับ "ป๋าลอ" จนเรียบร้อย กลับเข้าที่นั่งเสร็จสรรพ พระท่านก็สวดสืบชะตาจบพอดี ชนิด "เป๊ะเว่อร์" จนกระทั่งหลายคนก็ส่งเสียงเฮเหมือนเดิม
ขอให้ท่านทั้งหลายทราบว่า ถ้าท่านเองได้รับการซักซ้อมแบบกระผม/อาตมภาพ ก็คือตั้งแต่อายุไม่ถึง ๒๐ ปี ฝึกมโนมยิทธิได้ ก็ซ้อมกันชนิด "หัวไม่วาง หางไม่เว้น" โดนพระท่านหลอกให้หลงทางบ้าง ครูบาอาจารย์หลอกจนหัวทิ่มหัวตำบ้าง พรหมเทวดาท่านหลอกเอาบ้าง ผีหลอกเอาบ้าง จนกระทั่งในที่สุดก็รู้ว่า วางกำลังใจอย่างไรถึงจะใช่ วางกำลังใจอย่างไรถึงจะไม่ใช่ ถ้าท่านทั้งหลายสามารถซักซ้อมได้เนิ่นนานขนาดนี้ ก็จะเข้าใจเอง ว่า เหตุใดกระผม/อาตมภาพจึงทำอะไร "เป๊ะเว่อร์" แบบนี้อยู่เสมอ
เมื่อรับไทยธรรมจากคุณต๋อง (ณัฐพล สุขวัฒนศิริ) ซึ่งเป็นเจ้าภาพไทยธรรมเฉพาะของกระผม/อาตมภาพแล้ว ก็ได้ขอตัวกับทุกคนเดินทางกลับ โดยฝากภาระในการพรมน้ำมนต์แก่ญาติโยมทั้งหลายแก่ท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม) วัดโพธิลังการ์ ซึ่งนั่งคัดท้ายอยู่ในพิธี ท่านเองบอกว่าหลังจากที่ไปช่วยเฉลี่ยกรรมให้ ก็ป่วยหนักไป ๔ วัน ตอนนี้แข็งแรงดีแล้ว แต่กระผม/อาตมภาพเอง เนื่องจากพักผ่อนไม่พอ จึงยัง "ผีเข้าผีออก" อยู่เสมอ
เมื่อเดินทางกลับถึงที่พักแล้ว ก็ได้ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน หลังจากนี้แล้วยังต้องเข้ารายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม ซึ่งมีเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ต่อไป
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-03-2025 เมื่อ 17:32
|