แต่ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ย้อมเป็นสีเดียว ก็คือจะเป็นสีกรัก หรือว่ากาสาวะ ก็คือสีของยางไม้ก็ได้ หรือว่าเป็นสีเหลือง อย่างเช่นว่าเหลืองจากการย้อมด้วยน้ำขมิ้นก็ได้ หรือเป็นสีเหลืองเจือแดงเข้มที่ปัจจุบันกระผม/อาตมภาพเห็นว่าเป็นสีแดงเสียมากกว่า ก็คือตามที่พระอัญญาโกณฑัญญเถระ ที่ท่านหลีกไปจำพรรษาอยู่ที่ฉัตทันตสระกับฝูงช้าง แล้วไม่สามารถที่จะหาไม้มาทำเป็นน้ำย้อมฝาดได้ ท่านจึงใช้ดินลูกรังเอามาต้ม แล้วกรองเอาน้ำมาย้อมจีวร จึงทำให้จีวรออกมาสีค่อนข้างแดง
เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอนุญาตให้ถึง ๓ สี แต่ว่าจีวรนั้นจะต้องย้อมเป็นสีเดียวกันทั้งผืน ไม่ใช่ว่าอีหลุปุปะสารพัดสีประหนึ่งสายรุ้งแบบนั้น..! ถ้าเป็นในลักษณะนั้นคือ ตีความพระธรรมวินัยผิด หรือไม่ก็ตั้งใจทำเพื่อให้ชาวบ้านเห็นขลังแล้วศรัทธา ถ้าลักษณะอย่างนั้นถือว่าปฏิบัติเพื่ออวดคนอื่น หาใช่หนทางแห่งการพ้นทุกข์ไม่..!
แล้วอีกอย่างหนึ่งก็คือการเดินธุดงค์นั้น ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าธุตังคะ คือองค์คุณในการแผดเผากิเลส ไม่ใช่การเดินทาง หากแต่ว่าเป็นการอยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง แล้วก็ปฏิบัติตามหลักธุดงควัตร ๑๓ ประการ ไม่ใช่ว่าเดินทางไปโน่น เดินทางไปนี่ แล้วเรียกว่าธุดงค์ ลักษณะนั้นน่าจะเรียกว่าจาริก คือการเที่ยวไปมากกว่า
จึงขออธิบายเอาไว้เผื่อท่านที่ยังไม่เข้าใจ หรือว่าญาติโยมที่เข้าใจผิด แล้วไปเห็นขลังว่า บุคคลที่ครองจีวรสารพัดสีปุปะไปทั้งตัว เป็นบุคคลที่เคร่งครัดตามพระธรรมวินัย ความจริงแล้วท่านกำลังทำผิดพระวินัยต่างหาก..!
ความจริงในระยะนี้ยังมีสารพัดเรื่องที่อยากจะกล่าวถึง แต่รู้สึกว่าจะรบกวนเวลาของพวกเรามาพอเพียงแล้ว สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-03-2025 เมื่อ 02:02
|