ประการที่สอง ถ้าหากท่านคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเบา ขอให้ไปดูมติมหาเถรสมาคม ตลอดจนกระทั่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ที่มีเอาไว้อย่างชัดเจนว่า ถ้าหากทำความผิดจนถึงระดับต้องโทษจำคุก ให้ทำการลาสิกขาเสียก่อน
และประการสุดท้าย ท่านอยู่ต่อไปก็มีแต่จะทำให้วัดเสื่อมเสีย ทำให้พระอุปัชฌาย์อาจารย์เสื่อมเสีย ทำให้คณะสงฆ์เสื่อมเสีย ยิ่งคนเราเห็นคณะสงฆ์ของเราในปัจจุบันนี้ว่าหาดีไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าท่านเสียสละตัวของท่านเองไป ก็จะไม่เป็นการซ้ำเติมทำลายคณะสงฆ์ของเรา ท่านถึงได้ยอมสึกหาลาเพศไป
ถ้าจำไม่ผิด เรื่องนี้ก็ ๓ ปีล่วงไปแล้ว ไม่น่าเชื่อว่านานขนาดนี้แล้วยังไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก จึงทำให้บรรดาเจ้าคณะปกครองให้คำชมเชยว่า คณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ จัดการปกครองดูแลลูกคณะได้เป็นระเบียบเรียบร้อยมาก กระผม/อาตมภาพเองก็ไม่อยากที่จะพูดในเรื่องนี้ เพราะว่าบางอย่างอยู่ในลักษณะว่า พูดไปแล้วดีแตกขึ้นมา เราก็เสียหน้าเองเสียด้วย
ก่อนที่จะปิดประชุมก็มีการเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามมติมหาเถรสมาคมที่ให้มีการเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล ทุกวันที่ ๒๘ ของเดือน จากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ต้องเดินทางเข้าสู่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) เพื่อที่จะไปดูแลผู้ที่ผ่านการอบรมพระอุปัชฌาย์ระดับจังหวัดแล้ว ต้องมาฝึกซ้อมอบรมพระอุปัชฌาย์ในระดับภาคกันต่อไป
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
|