ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 28-02-2025, 00:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,234 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จนกระทั่งภายหลังไปอุปสมบทที่วัดจันทาราม (ท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานีแล้ว ครั้นหลังจาก ๔ พรรษา พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านอนุญาตให้ออกธุดงค์ได้ กระผม/อาตมภาพก็มุ่งหน้ามายังกาญจนบุรี ขอศึกษาหาความรู้กับหลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า หลวงปู่สาย วัดท่าขนุน และหลวงพ่ออุตตะมะ วัดวังก์วิเวการาม โดยที่ได้ความรู้สายหลวงปู่ม่วง วัดบ้านทวน มาจากหลวงพ่อเจ้าคุณณรงค์ - พระเดชพระคุณพระเทพเมธากรณ์ (ณรงค์ ปริสุทโธ ป.ธ. ๔) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี และอดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีนั่นเอง

เมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้านับวิชาการสายหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัวแล้ว กระผม/อาตมภาพเองศึกษาลักษณะมุ่งไปและย้อนกลับ ก็คือรับมาจากทางด้านหลวงพ่อลำใย วัดทุ่งลาดหญ้า สืบสายต่อมาจากหลวงปู่สอนที่ร่ำเรียนจากหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว

หลังจากนั้นยังมาเรียนกรรมฐานจากพระเดชพระคุณพระสาสนโศภณ ซึ่งภายหลังก็คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร แห่งวัดบวรนิเวศ ราชวรวิหาร สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตอนนั้นท่านยังเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะที่พระสาสนโศภณ ได้เมตตาถ่ายทอดวิชาอสุภกรรมฐาน ที่เรียกว่าอัฏฐิกอสุภ - กระดูก ๓๐๐ ท่อน ให้กระผม/อาตมภาพอย่างละเอียดมาก ก็แปลว่าทางด้านหลวงปู่ดี วัดเหนือที่เป็นลูกศิษย์สำคัญรูปหนึ่งของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ท่านสืบสายวิชามาที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ แล้วก็มาถึงกระผม/อาตมภาพ

ส่วนทางด้านหลวงปู่ใจ อินฺทสุวณฺโณ (พระราชมงคลวุฒาจารย์) วัดเสด็จ และหลวงปู่แช่ม วัดจุฬามณี ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัวนั้น วิชาสายหลวงปู่แช่ม วัดจุฬามณีถ่ายทอดมาถึงหลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณี แล้วหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน ก็ไปศึกษาร่ำเรียนมา หลังจากนั้นวิชาการส่วนนี้ก็มาตกถึงกระผม/อาตมภาพอีก

การร่ำเรียนวิชาการต่าง ๆ นั้น โดยปกติแล้ว กระผม/อาตมภาพไม่ค่อยจะได้เล่าให้ใครฟัง เนื่องเพราะว่าการถ่ายทอดนั้น บางทีท่านก็บอกพรวด ๆ รวดเดียวให้ตั้งแต่ต้นจนจบ อาศัยที่ตนเองความจำดีก็จดจำเอาไว้ ก็คือจำแล้วก็มาจด เมื่อจดเอาไว้แล้ว ก็พากเพียรศึกษาพยายามทำให้เกิดผล ถ้าหากว่าติดขัดตรงไหน ก็วิ่งมากราบเท้าสอบถามจากครูบาอาจารย์อีกครั้งหนึ่ง

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพก็เลยแทบจะเป็นลูกศิษย์ของ "๗ เสือกาญจนบุรี" แบบครบถ้วน เนื่องเพราะว่าสายหลวงปู่ม่วง วัดบ้านทวนนั้น ท่านถ่ายทอดไปให้หลวงพ่อซ้ง อินฺทสโร วัดวัดสาลวนาราม (วัดดอนตาเพชร)

ส่วนหลวงพ่อเจ้าคุณณรงค์นั้น ท่านเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของหลวงปู่ซ้ง วัดดอนตาเพชร โดยเฉพาะคาถาต่าง ๆ ที่หลวงพ่อณรงค์ถ่ายทอดมานั้น เล่าให้ใครฟังก็หัวเราะกันแทบตาย เพราะว่าหลวงพ่อณรงค์ในสมัยนั้น ท่านจะต้องออกทำงาน ในฐานะเจ้าคณะตำบลเกาะสำโรง ที่กินพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไล่มาเข้าป่าอำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ ไปยันอำเภอสังขละบุรี ติดชายแดนพม่า ท่านก็เลยศึกษาแต่วิชาการประเภทป้องกันไม่ให้ตัวเองตาย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2025 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา