แล้วมีคำถามว่าเรียนบาลีไปแล้วได้อะไร ? ปาลิภาสา ปาเลตีติ ภาษาบาลีเป็นภาษารักษาไว้ซึ่งพุทธพจน์ แค่คุณมาเรียนได้ คุณก็กำลังรักษาพระพุทธศาสนาไว้แล้ว เพราะอะไร ? เพราะว่าการบวชของท่านทั้งหลายเขาใช้ภาษาบาลีทั้งหมด ไม่มีบาลีบวชได้ไหม ? ไม่ได้..ขนาดที่พวกเราเรียกชื่อภาษาบาลี หรือที่เขาใช้คำว่า "ฉายา" ก็ยังจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเป็นภาษาบาลี หรือภาษามคธ ก็แปลว่าต่อให้ยังไม่ทันจะเรียน เราเป็นพระเป็นเณรขึ้นมาได้ก็ด้วยภาษาบาลี
พอ ๆ กับที่มีคนถามว่า "ทำบุญแล้วได้อะไร ?" ไอ้พวกปัญญานิ่ม..! เอ็งเกิดมาทำบุญได้นั่นแหละบุญแล้ว ถ้าไม่อาศัยบุญ เอ็งจะเกิดมาทำบุญได้ไหม ? แล้วยังไม่มีอารมณ์ที่จะทำบุญต่อ ถึงเวลาบุญหมด แล้วก็จะรู้ว่านรกเป็นอย่างไร ?!
ดังนั้น..เรื่องพวกนี้ที่กระผม/อาตมภาพบ่นให้พวกเราฟังกันอยู่ ก็เพื่อที่จะบอกพวกเราว่า แม้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ให้ความสำคัญกับการเรียนบาลีเป็นอย่างยิ่ง นอกจากพระองค์ท่านจะพระราชทานพระราชทรัพย์ปีละมาก ๆ สนับสนุนแล้ว ไม่ต้องอะไรหรอก แค่มหาวิทยาลัยบาลีเถรวาทที่กำแพงแสน พระองค์พระราชทานพระราชทรัพย์เป็นร้อยล้านบาท ให้เขาไปจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัย
แล้วไหนจะเรียนเอง และชักชวนบุคคลรอบข้างเรียนด้วย บางท่านก็เห็นว่าท่านเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เขียนคำอวยพรเป็นภาษาบาลี ถ้าหากว่าเราใช้สำนวนชาวบ้านก็คือ "หัวต้องส่าย หางถึงจะกระดิก" พระองค์ท่านเล็งเห็นตรงจุดนี้ถึงได้เรียนเป็นตัวอย่าง
แล้วก่อนหน้านี้เขาไม่อนุญาตให้พระราชาคณะ ก็คือผู้ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ตั้งแต่เจ้าคุณชั้นสามัญขึ้นไปเรียนบาลี เพราะถือว่า เป็นเจ้าคุณสอบตกแล้วอายเขา..! แต่ว่าปัจจุบันนี้ถึงขนาดอนุญาตให้แม้สมเด็จพระราชาคณะ ถ้าต้องการเรียนบาลีเพิ่มความรู้ ก็อนุญาตให้เรียนได้
วัดท่าขนุนของเราปีที่แล้ว มีผู้สอบประโยคบาลีได้มากกว่าสำนักเรียนใหญ่อย่างวัดใต้เสียอีก ก็แปลว่าที่ท่านทั้งหลายเพียรพยายามมา ๓ วัน จะรู้ผลภายในเดือนหน้านี้ คราวนี้ก็ลุ้นกันไป เพราะว่าพวกท่านไม่ได้มีความสามารถเหมือนกระผม/อาตมภาพ กระผม/อาตมภาพสอบอะไรสามารถให้คะแนนตัวเองได้ ดังนั้น..พอสอบไปแล้วจะรู้เลยว่าตัวเองได้หรือไม่ได้ ถ้าอยากจะทำแบบนี้ได้ก็คงต้องฝึกฝนกันอีกมาก..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-02-2025 เมื่อ 00:47
|