สรุปว่าขณะที่คนอื่นโดนกัน ๓ ชั่วโมง ๔ ชั่วโมง ในขณะสอบปริญญาเอก กระผม/อาตมภาพโดนอาจารย์เชิญออกนอกห้อง เพื่อให้คณะกรรมการปรึกษากันว่าจะให้สอบผ่าน สอบไม่ผ่าน ? จะให้เกรดระดับไหน ? กลับเข้ามาแล้วถึงได้เห็นว่า ตนเองเปิดเครื่องบันทึกเสียงทิ้งเอาไว้ ลืมปิด จึงจัดการปิดแล้วก็ฟังผลที่ท่านอาจารย์ทุกท่านให้ผ่านโดยไม่มีข้อแม้ มาดูเวลาที่บันทึกไว้ก็คือ ๒๒ นาที จนป่านนี้ยังไม่มีใครทำลายสถิตินี้ได้..!
แล้วขณะเดียวกัน วิทยานิพนธ์ที่ได้แค่ B+ กลายเป็นวิทยาพนธ์ตัวอย่างที่ทางมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยต้องขอเพิ่มทุกปี ท่านอาจารย์ซึ่งตอนนี้ก็คือ รศ., ดร. สุรพล สุยะพรหม ยังบอกว่า "เป็นเรื่องอัศจรรย์มากครับ ปกตินิสิตเรียนจบแล้ว ก็พิมพ์วิทยานิพนธ์ส่งบัณฑิตวิทยาลัยครั้งเดียวเลย แต่ของหลวงพ่อเล็กต้องพิมพ์อยู่ทุกปี" เพราะว่ามีทั้งการวิจัยในลักษณะเชิงคุณภาพ แล้วเอาการวิจัยเชิงปริมาณมาเพื่อยืนยันว่า การวิจัยเชิงคุณภาพนั้นถูกต้องดีงามอย่างไรบ้าง แล้วยังมีการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม ตลอดจนกระทั่งทำโฟกัสกรุ๊ป ซึ่งตอนนั้นกำหนดว่าต้องมีอาจารย์อย่างน้อย ๑๒ ท่านขึ้นไป..!
เมื่อถึงเวลานิสิตอยากได้ตัวอย่างวิทยานิพนธ์แบบไหน กระผม/อาตมภาพก็มีให้ จึงกลายเป็นถึงเวลาตนเองไม่จบก็ไม่คายวิทยานิพนธ์ที่ยืมจากมหาวิทยาลัยไป รุ่นต่อมาพอจะยืมก็ไม่มีให้ จึงต้องมาขอพิมพ์เพิ่ม เมื่อล่าสุดปีที่ผ่านมา ก็พิมพ์ไป ๑๒ เล่ม โดยพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.,ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน ช่วยออกทุนให้ กระผม/อาตมภาพค่อยสบายใจหน่อย ไม่เช่นนั้นพิมพ์แต่ละครั้งก็หมดเงินหลายพันบาทอยู่..!
ต้องบอกว่าท่านอาจารย์สุรพลเป็นฆราวาสสุดยอดฝีมือ เนื่องเพราะว่าในช่วงที่ของบประมาณจากรัฐบาลมาสนับสนุนวิทยาลัย ท่านสามารถของบประมาณสร้างสนามกีฬาแก่มหาวิทยาลัยสงฆ์ได้ ทั้ง ๆ ที่คณะกรรมาธิการงบประมาณถามว่า "พระภิกษุสามเณรจะเล่นกีฬาอะไรได้ ?"
ท่านอาจารย์สุรพลชี้แจงว่า การศึกษาหลายหลักสูตรของมหาวิทยาลัย เป็นการศึกษาที่รับนิสิตฆราวาสด้วย อย่างเช่นว่าคณะสังคมศาสตร์ มีทั้งรัฐประศาสนศาสตร์ บริหารรัฐกิจ จิตวิทยา การปกครอง ตลอดจนกระทั่งวิชาอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นครุศาสตร์ พุทธจิตวิทยา ในเมื่อมีนิสิตซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อความแข็งแรงของบรรดานิสิตฆราวาส จึงจำเป็นที่จะต้องมีสนามกีฬาให้ด้วย ท่านสามารถชี้แจงจนกระทั่งทุกคนเห็นประโยชน์ แล้วยอมอนุมัติงบประมาณให้..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-02-2025 เมื่อ 01:53
|