วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพไข้จับแต่เช้า กว่าจะรู้ตัวว่าอากาศเปลี่ยนแปลงขนาดฝนตก ก็ต้องออกจากกุฏิริมป่าช้ามาแล้วถึงได้รู้..! บุคคลที่มีเชื้อมาลาเรียเรื้อรังอยู่ภายในสายเลือด จะไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศมากเป็นพิเศษ จึงได้ฉันยา แล้วแต่งองค์ทรงเครื่องออกไปต้อนรับของคณะของท่านอาจารย์ รศ., ดร. สุรพล สุยะพรหม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งท่านเป็นอาจารย์เปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ ให้พวกกระผม/อาตมภาพได้เรียนเพิ่มวุฒิการศึกษาของตนเอง จนสามารถเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีได้
ต้องบอกว่า "ไม่ต่อยตี ไม่รู้จักกัน" เนื่องเพราะว่าตั้งแต่เรียนระดับบริหารกิจการคณะสงฆ์ กระผม/อาตมภาพเป็นตัวแทนนิสิตประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์ของภาค ๑๔ ก็คือ จังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และสมุทรสาคร ขึ้นไปให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนวิชานี้ ร่วมกับตัวแทนจากภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ซึ่งส่งตัวเอกของเขา ก็คือ พระครูปลัดวัชรินทร์ (พระครูเมตตามงคลวิศิษฏ์, ดร.) ขึ้นไปชนิดที่เรียกว่า "กะจะบี้นิสิตของภาคอื่นให้ตายคาเวทีไปเลย..!"
แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงคิวกระผม/อาตมภาพ ที่ฟังการชื่นชมในการเรียน ตลอดจนกระทั่งเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะมาช่วยให้การปกครองคณะสงฆ์ของเราให้ดีขึ้นแล้ว ก็เกิดอาการ "ของขึ้น" บอกว่า "ขออนุญาตพระบ้านนอกติดกับพม่าอย่างกระผม/อาตมภาพพูดเสียหน่อย เรื่องที่ท่านทั้งหลายนำมาให้เรียนนี้ ถ้าไม่ได้เกรงใจว่าเป็นไปด้วยความหวังดีต่อคณะสงฆ์แล้ว กระผมจะว่าท่านทั้งหลายบัญญัติในสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ เพิ่มเติมในสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้เพิ่มเติม..!
การปกครองคณะสงฆ์ไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีอะไรเลยก็ได้ ขอให้สอนพระภิกษุสามเณรของเราละอายชั่ว กลัวบาป รักศีลของตนเอง ทุกอย่างก็จบแล้ว ไม่ใช่มาเรียนประกาศนียบัตร เรียนปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก แล้วก็กลายเป็น "เหี้ยติดปีก" ก็คือสามารถชั่วได้เนียนกว่าเดิมเพราะว่ามีความรู้มากขึ้น..!"
ทำเอาเสียงกองเชียร์ปรบมือกระทืบเท้าจนเวทีแทบถล่มทลาย บรรดาบุคคลที่มาแสดงวาทะต่าง ๆ ก็นึกไม่ถึงว่า การที่ตนเองโดดขึ้นรถไฟสายเทคโนโลยีไปนั้น จะโดนพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ จับพลิกตีลังกาหัวทิ่ม กลับมาอยู่จุดเดิม ประมาณว่าสูงสุดคืนสู่สามัญ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-02-2025 เมื่อ 01:47
|