ถ้าหากว่าท่านใดเคยเห็นวิดีโอที่เขาถ่ายทำตอนที่ท่านออกมาพบปะชาวบ้าน ถ้าเป็นสมัยนี้เขาถือว่าตัดต่อ แต่สมัยนั้นการตัดต่อไม่มี สมมติว่าเป็นศาลาวัดท่าขนุนใหญ่ ๆ อย่างนี้ ท่านอยู่มุมนี้ ด้านโน้นตะโกน "หลวงปู่..มาทางนี้หน่อย" ท่านก็ไปอยู่ตรงโน้น ทักทายญาติโยมทางด้านโน้น อีกด้านหนึ่งตะโกน "หลวงปู่..มาทางนี้บ้าง" ท่านก็ไปอยู่ตรงนั้น ไม่เห็นท่านตั้งท่าอะไรเลย นั่นคือความคล่องตัวจนเป็นวสีของการใช้ฌาน ใช้สมาบัติ
แต่ว่าถ้าหากว่าไม่ได้มีภารกิจจริง ๆ ไม่มีใครอยากอยู่หรอก เพราะว่าสภาพร่างกายมีความทุกข์เป็นปกติ แค่นิพัทธทุกข์ เจ็บไข้ได้ป่วย หนาวร้อน หิวกระหาย ปวดอุจจาระ ปวดปัสสาวะ ต้องดูแลร่างกายแค่นี้ก็ปางตายแล้ว แล้วไหนยังมีสารพัดทุกข์ที่จะตามมาอีกในการดำรงชีวิต ดังนั้น..ถ้าพระท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนกระทั่งรู้จักพระนิพพานแล้ว ไม่มีใครอยากอยู่สักรายหนึ่ง เพราะรู้ว่าสถานที่นั้นพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงแล้ว
เพียงแต่ว่าบุคคลที่อยู่ในระดับนั้นไม่ใช่ทิ้งโลกไปเลย แบบเดียวกับนาคที่หนีกลับบ้านของเรา ถึงขนาดต้องการจะปฏิบัติปิดวาจา แสดงว่าไม่เคยอ่านพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหตุไฉนโมฆบุรุษพวกนี้จึงได้ถือมูควัตร ซึ่งพวกเดียรถีย์ถือกัน การกระทำของโมฆบุรุษเหล่านั้น นั่นไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส ฯลฯ กระทำประดุจสัตว์ที่ไม่สามารถพูดจากัน ฯลฯ ครั้นแล้วทรงธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย..ภิกษุไม่พึงสมาทานมูควัตรที่พวกเดียรถีย์สมาทานกัน รูปใดสมาทานต้องอาบัติทุกกฏ"พระองค์ท่านตรัสไว้ชัดเจนมาก
แต่ถ้าอย่างหลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข จังหวัดสิงห์บุรี พอคนไปพูดถึงเรื่องนี้ ท่านถามกลับมาสั้น ๆ ว่า "ไอ้คนไม่พูด มันคิดไหมเล่า ?" พูดง่าย ๆ ก็คือความฟุ้งซ่านนั้นเกิดจากความคิดเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่พูดแล้วถึงฟุ้งซ่าน ถ้าสติไม่พอ ต่อให้คุณไม่พูดกับใคร ก็ฟุ้งซ่านได้..!
คราวนี้การที่เราจะประพฤติวัตรปฏิบัติธรรม ไม่ว่าจะประกอบกิจวัตรของความเป็นพระเราก็ดี เรื่องของคันถธุระต่าง ๆ ก็ตาม ถ้าสามารถกำหนดสติไปได้ด้วย ทุกอิริยาบถก็คือการปฏิบัติธรรม เพียงแต่ว่าพวกเราไม่ค่อยจะถนัดกัน ทดลองทำกันบ้างแล้วจะรู้และทำงานอย่างมีความสุขมากขึ้น
กระผม/อาตมภาพเองกลับมาได้ไม่กี่ชั่วโมง เลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๔ ดร.ท่านเจ้าคุณอ๋อ (พระวชิรปัญญาภรณ์, ดร.) โทรตาม "หลวงพ่อ..พรุ่งนี้รับพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช ก่อนพิธีปิดอบรมบาลีก่อนสอบนะครับ" ก็แปลว่าต้องแหกขี้ตาไปแต่มืดอีกแล้ว..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-02-2025 เมื่อ 01:37
|