ในเบื้องต้นของเรา..เราใช้ศีลเป็นเครื่องป้องกันตนเอง ไม่ให้ตกไปอยู่ในที่ชั่ว เบื้องกลาง..ใช้สมาธิในการยับยั้งชั่งใจตน ไม่ให้คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว แล้วท้ายที่สุด..ยังต้องใช้ปัญญาในการพิจารณาให้เห็นว่า การเกิดมาแต่ละชาติของเรานั้นมีแต่ความทุกข์..
ในปัจจุบันของเรานี้ สภาวะสงครามทำให้เดือดร้อนไปทั้งโลก ดีไม่ดีผลกระทบก็จะมาถึงเรา อยู่กับบ้านเฉย ๆ ก็มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหลอกเราจนหมดเนื้อหมดตัว ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อนแบบนี้ เราไม่พึงปรารถนาอีก เราก็ตั้งกำลังใจไว้ว่า ถ้าตายจากชาตินี้เมื่อไร เราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว
ถ้าท่านทั้งหลายสามารถวางกำลังใจแบบนี้ ประพฤติปฏิบัติแบบนี้ได้ทุกวัน ถึงจะได้ชื่อว่าท่านทั้งหลายละเว้นจากอกุศลทั้งปวง กระทำกุศลให้ถึงพร้อม และพยายามชำระจิตของตนให้ผ่องใสจากกิเลส จึงจะสมกับพุทโธวาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ได้ตรัสไว้เป็นโอวาทปาฏิโมกข์ให้แก่พวกเรา และในส่วนสำคัญก็คือ ต้องมีสติ ต้องมีสมาธิ ต้องมีปัญญา เราถึงจะสามารถดำเนินชีวิตอยู่ในโลกที่วุ่นวายเร่าร้อนนี้ไปได้อย่างไม่ทุกข์ยากมากนัก
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 13-02-2025 เมื่อ 09:25
|