เนื่องเพราะว่า..การชำระจิตของเราก็มีทั้งเบื้องต้น เบื้องกลาง และเบื้องปลาย..
เบื้องต้นของเรานั้นชำระด้วยศีล หักห้ามตัวเอง ไม่ให้กิเลสไหลไปกระทบผู้อื่น โกรธ..แต่ว่าไม่ทำร้ายใคร โลภ ไม่ลักขโมยของใคร ถ้าหากว่าโกรธก็ไม่ด่าว่าใคร..ถ้าอยู่ในลักษณะนี้ของเรา เราก็อยู่ในลักษณะของบุคคลที่เพียรพยายามหักห้ามตนเอง ซึ่งการหักห้ามนั้นจะได้ผลก็ต่อเมื่อสมาธิของเราทรงตัว
การที่จะมีสมาธิทรงตัวได้..ศีลทุกข้อของเรานอกจากบริสุทธิ์บริบูรณ์แล้ว ยังต้องหาเวลาในการภาวนาอย่างเป็นทางการเอาไว้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเช้า ๆ เย็น ๆ สักครั้งละ ๕ นาที ๑๐ นาที หรือถ้าใครทำได้สัก ๓๐ นาทีหรือ ๑ ชั่วโมงก็ยิ่งดี..!
โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจตกสะเก็ด หรือว่าสภาวะสงครามต่าง ๆ เกิดขึ้น ภัยธรรมชาติเกิดขึ้น เราจะภาวนาก็ขอให้เกิดผลพิเศษด้วย..ก็ภาวนาพระคาถาเงินล้านไปเลย ถ้าอย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกเมื่อล่าสุดมา..ก็พยายามว่าให้ได้สักวันละ ๑๐๘ จบ ก็คือ ใช้ภาวนาเป็นกรรมฐาน ไม่ใช่สักแต่ท่องให้ได้ครบทั้ง ๑๐๘ จบ
ถ้าทำอยู่ในลักษณะอย่างนี้ นอกจากเราทรงสมาธิแล้ว ยังมีผลพิเศษให้เกิดความคล่องตัว สามารถผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากไปได้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 13-02-2025 เมื่อ 22:41
|