กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้ว่าอะไร เนื่องเพราะว่าตนเองโตมาด้วยการฝึกงานเป็นกรรมฐาน เข้าใจดีว่าท่านที่นั่งนิ่ง ๆ อย่างเดียว โดยไม่ทำมาหารับประทานอย่างอื่นนั้น ไม่ช้าก็เครียดจนไปต่อไม่ไหว..!
หลายต่อหลายท่านที่บวชแล้ว ก็ยื่นข้อต่อรองกับพระอุปัชฌาย์อย่างกระผม/อาตมภาพว่า อยากอยู่ในที่นิ่ง ๆ ในที่เงียบ ๆ แต่เมื่อส่งไปอยู่ที่เกาะพระฤๅษี ก็เผ่นออกมาในเวลาอันไม่นาน เนื่องเพราะว่าทนความเงียบไม่ไหว ถึงขนาดบ่นว่า "นั่นก็เงียบเกินไป เงียบจนได้ยินลมหายใจตัวเอง ทำเอาหลอนไปเลย" เหล่านี้เป็นต้น แสดงว่าจิตใจของตนเองนั้นกลับกลอกมาก ต้องการแบบนั้น แต่พอได้กลับไม่อยากที่จะทำ
เมื่อออกจากอุโบสถมาแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขึ้นแสดงพระธรรมเทศนาเนื่องในวันมาฆบูชา แล้วก็มาทำการเจริญพระพุทธมนต์ รับถวายภัตตาหารสังฆทาน อปโลกน์และให้พรแล้ว ก็ปล่อยให้พระภิกษุวัดท่าขนุนของเรา ไปทำการเจริญพระพุทธมนต์ฉลองพระใหม่ ตัวเองที่ไข้ขึ้นจนหมดสภาพ รีบฉันเพลแล้วก็นอนพัก จนกระทั่งช่วงบ่ายก็มาลงอุโบสถ ทบทวนพระปาฏิโมกข์ร่วมกับพระภิกษุอื่น รวมแล้ว ๔๑ รูป จากนั้นก็ปล่อยให้ทุกท่านไปวางผางประทีป เพื่อตามถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันมาฆบูชา หน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร ท่านทั้งหลายคงต้องรอดูทางเฟซบุ๊กภายในคืนนี้
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2025 เมื่อ 02:05
|