ท่านทั้งหลายอาจจะคิดว่า ในเรื่องของศิลปวัฒนธรรมต้องมีพัฒนาการ กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะว่าเข้าใจเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นอย่างดี แต่ว่าตำหนิตรงที่ว่า เด็กนักเรียนประถมต้นบ้าง อนุบาล ๑ อนุบาล ๒ อนุบาล ๓ บ้าง แล้วมาแต่งตัวแสดงในลักษณะอย่างนี้ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะว่าเป็นการแสดงออกที่ผู้ใหญ่เห็นว่า "แก่แดด" เสียมากกว่า ในเรื่องแบบนี้ ถ้าเราสนับสนุนไป นานไปเด็กทั้งหลายเหล่านี้ก็จะอยู่ในลักษณะ "โตเร็วเกินอายุ" แล้วสังคมบ้านเราก็คงจะวุ่นวายไปกว่านี้อีกมาก..!
เรื่องศิลปวัฒนธรรมเป็นรากฐานประเทศชาติของเรา ในส่วนใดที่ดีเราควรที่จะสืบทอดเอาไว้ ในส่วนของการเรียกแขกเรียกคน โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ สาว ๆ ตกมันเหล่านั้น ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขาเถิด เราเป็นคุณครู เป็นแม่พิมพ์ของชาติ อย่างไรเสีย แบบพิมพ์ที่เราพิมพ์ออกมาก็อย่าให้บิดเบี้ยวมากนัก ถึงแม้จะไม่สวยงามระดับเกรด A ก็ขอให้ได้สัก B+ ก็ยังดี
มาถึงช่วงเช้าวันนี้ เป็นวันขึ้น ๑๕ เดือน ๓ มาฆบูชา พระภิกษุวัดท่าขนุนไม่ได้ออกบิณฑบาต เมื่อไปฉันเช้าที่โรงครัวแล้ว ก็เข้าอุโบสถ ทำการอุปสมบทหมู่ บุคคลที่ตั้งใจอุปสมบทเพื่อปฏิบัติธรรมในสัปดาห์วันมาฆบูชาปี ๒๕๖๘ ซึ่งตอนแรกนั้นผ่านการขานนาคมาได้ทั้งหมด ๙ ท่านด้วยกัน
แต่ด้วยความว่ามีท่านหนึ่ง ซึ่งเมื่อเจองานต่าง ๆ ของวัดท่าขนุนเข้าไปแล้ว รู้สึกว่าวุ่นวาย ไม่ตรงกับจริตของท่าน จริตของท่านอยู่ในลักษณะที่ว่า เมื่อบิณฑบาตฉันแล้วก็ต้องนั่งสมาธินิ่ง ๆ ดูจิตดูใจตนเองไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องทำมาหากินอะไรประมาณนั้น เมื่อมาเจองานวุ่นวายที่วัดท่าขนุน โดยเฉพาะเมื่อวานมีไฟป่าไหม้ ต้องระดมพระภิกษุไปช่วยกันทำแนวกันไฟ ท่านก็เลยถึงโอกาส "ฟิวส์ขาด" ไม่สามารถที่จะรับเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ได้ พาญาติโยมหนีกลับบ้านไปแล้ว..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2025 เมื่อ 02:04
|