วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศที่ทองผาภูมิอยู่ที่ ๒๐ องศาเซลเซียส แสดงว่าเข้าฤดูร้อนแล้ว แต่ขนาดนั้นไอ้ตัวเล็ก (นางสาวพัชรีภรณ์ หยกอุบล) เจ้าหน้าที่ดูแลเว็บไซต์วัดท่าขนุน และเว็บเพจเฟซบุ๊กวัดท่าขนุน ยังบ่นว่าหนาว
เมื่อวานนี้กระผม/อาตมภาพออกไปเพื่อมอบรางวัลให้กับผู้แข่งขันในการจักสานงานไม้ไผ่ และแปรรูปอาหารพื้นเมือง ซึ่งงานจักสานไม้ไผ่นั้นกลายเป็นการแข่งขันกันในหมู่ลูกศิษย์ของลุงโจและป้าลอน ลุงโจ (นายสมบุญ พวงสุวรรณ) ป้าลอน (นางลอน พวงสุวรรณ) นั้น ทั้งคู่เป็น "ครูศิลป์ของแผ่นดิน" ซึ่งขึ้นทะเบียนอยู่กับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เมื่อฝีมือไปถึงระดับอวดชาวโลกเขาได้ ส่งผลงานไปให้ฮือฮาทั้งในและต่างประเทศแล้ว ลุงโจกับป้าลอนก็ผันตัวเองมาเป็นวิทยากร สอนการจักสานต่าง ๆ ให้กับเด็ก ๆ เพื่อหวังที่จะให้มีการสืบทอดวิชาการต่อไปในเบื้องหน้า
เนื่องเพราะว่าจังหวัดกาญจนบุรีนั้น แม้ว่าจะพื้นที่ป่าจะเป็นป่าไม้เบญจพรรณ แต่เป็นป่าไม้เบญจพรรณที่เป็นป่าไผ่ไปเสีย ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น..ในช่วงหน้าแล้ง พอใบไผ่ร่วงหมด มองไปทางไหนก็รู้สึกว่าแห้งแล้งกรอบเกรียมไปหมด แต่ด้วยความที่มีไผ่อุดมสมบูรณ์นี่เอง จึงเป็นเหตุให้เป็นวัสดุในการใช้งานต่าง ๆ สารพัด
โดยเฉพาะภูมิปัญญาไทยโบราณที่จักสานสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ตั้งแต่ชิ้นเล็กสุดจนถึงชิ้นใหญ่สุดขึ้นมาได้ กระผม/อาตมภาพตั้งแต่เด็ก ก็เห็นงานจักสานที่เขาสานไม้ไผ่เส้นละเอียดเหมือนเส้นผม ล้อมตลับสีผึ้ง หรือว่าล้อมตลับใส่ปูนกินกับหมาก แล้วมีการลงรักปิดทอง เขียนสีอีกด้วย
มาถึงยุคนี้ เด็ก ๆ โรงเรียนบ้านจันเดย์ ซึ่งกระผม/อาตมภาพมอบงบประมาณสนับสนุนงานจักสานให้ ก็สามารถที่จะจักสานงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปากกา กระเป๋าถือ แจกัน ตลอดจนกระทั่งกระถางธูปเชิงเทียน ล้อมด้วยไม้ไผ่จักสานลักษณะเดียวกันออกมาได้ กลายเป็นของที่ระลึก ซึ่งใครเห็นก็ชอบใจทั้งสิ้น
ผลการแข่งขันการจักสานไม้ไผ่ของสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิปีนี้ ผู้ชนะเลิศคือเด็กหญิงจิรภิญญา พวงสุวรรณ หลานของลุงโจและป้าลอนนั่นเอง ไอ้ตัวเล็กตั้งแต่เพิ่งจะรู้ภาษาก็จับ ๆ คลำ ๆ ไม้ไผ่มาขัดแตะกันอยู่ในลักษณะสานลายสองไปก่อน ปัจจุบันนี้สามารถสานงานได้อย่างคล่องแคล่วมาก
อย่างเช่นงานแข่งขันในวันนี้ก็คือตะกร้าไม้ไผ่หูหิ้ว ขนาดสูง ๔ นิ้ว กว้าง ๘ นิ้ว เด็กหญิงจิรภิญญาใช้เวลา ๑๒ นาทีในการสานงานเสร็จและเก็บงานได้เรียบร้อยมาก ส่วนเพื่อนฝูงร่วมรุ่นที่เข้าแข่งขันกันเอง ก็รับรางวัลลดหลั่นกันไปมากน้อยตามฝีมือของตน ไม่มีการเข้าข้างกันว่าเป็นหลานของครูศิลป์ของแผ่นดิน เนื่องเพราะว่าฝืมือกินขาดเพื่อนฝูงจริง ๆ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-02-2025 เมื่อ 08:55
|