กระผม/อาตมภาพตอนแรกคิดว่า ญาติโยมท่านนี้ไม่เคยเห็นหน้า จึงถามว่า "โยมมาจากไหน ?" ปรากฏว่าอีกฝ่ายหนึ่งตอบเสียงดังฟังชัดว่า "กระผมคือเจ้าเมืองลุ่มสุ่มในอดีตครับ" ทำเอาอาตมภาพแทบจะต้องเพ่งดูอีกรอบ เพราะว่าท่านมาปรากฏชัด ๆ เหมือนอย่างกับคนเป็น ๆ หนึ่งเดินเข้ามาเลยทีเดียว ไม่ใช่ลักษณะการปรากฏตัวแบบบางท่าน ที่เดินมาแล้วเราสามารถมองผ่านไปเห็นสิ่งของข้างหลังได้..!
ท่านมากราบขอบพระคุณในฐานะตัวแทนเจ้าเมืองทั้ง ๗ หัวเมือง บอกว่า "พรรคพวกเพื่อนฝูงยังติดงานอยู่ที่วัดพุตะเคียน ท่านมีอะไรต้องการให้พวกกระผมช่วยเหลือ ก็บอกกล่าวได้อย่างเต็มที่" อาตมภาพจึงขอความปลอดภัยตลอดการจัดงาน ๓ วันนี้ ท่านเจ้าเมืองลุ่มสุ่ม คือ พระนินภูมิบดี ก็บอกว่าถ้าอย่างนั้นเมื่อเสร็จงานตรงนี้แล้ว ไม่ต้องเก็บโต๊ะหมู่บูชาและป้ายรายชื่อของท่าน แต่ว่าให้จุดธูปบอกกันทุกวัน ท่านจะช่วยดูแลตรงนี้ให้
เมื่อเสร็จจากการทำบุญแล้ว กระผม/อาตมภาพจึงแจ้งทางพระเจ้าหน้าที่ให้ทราบว่าต้องปฏิบัติตามเช่นนี้ ท่านถึงจะรับรองความปลอดภัยให้ จากนั้นก็กล่าวคำถวายทาน กรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศล แก่เจ้าเมืองหน้าด่านทั้ง ๗ หัวเมืองของจังหวัดกาญจนบุรีในอดีต ตลอดจนกระทั่งบริวารของท่านทั้งหลาย แล้วก็ไปฉันเพลร่วมกับพระภิกษุวัดท่าขนุน ตลอดจนกระทั่งแม่ชี และญาติโยมที่มาร่วมงาน
เสร็จแล้วก็ต้องรีบเดินทางลงไปจังหวัดกาญจนบุรีโดยด่วน เพราะว่าเป็นคณะกรรมการในการพิจารณาคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เพื่อรับรางวัลเสาเสมาธรรมจักรพระราชทาน จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ ซึ่งไปถึงห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรีแบบหวุดหวิด ก็คือไปถึงก่อนเวลาแค่ ๓๐ นาที เห็นเล่มประวัติผู้ที่ขอรับรางวัลปีนี้ ๔ รายด้วยกัน จึงต้องรีบอ่านและดูอย่างเร่งด่วนว่า สาขาที่ท่านขอรับพระราชทานรางวัลเสาเสมาธรรมจักร กับข้อมูลที่ท่านทำประวัติมานั้น มีอะไรตรงหรือว่าไม่ตรงอย่างไร ? มีข้อมูลส่วนไหนที่ต้องเพิ่มเติมบ้าง ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2025 เมื่อ 02:48
|