ในข้อนี้พระภิกษุสงฆ์สามเณรของเรา ไม่ว่าจะเรียนปริยัติธรรมหรือว่าปฏิบัติธรรมก็ตาม ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไม่เอาพื้นฐานของการสวดมนต์ไหว้พระ และเจริญสมาธิภาวนาแล้ว โอกาสที่ท่านจะเอาตัวรอดจากสังคม หรือว่าวัฏสงสารนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างที่หลายท่านก็เห็นว่าเรียนจนจบเปรียญธรรม ๙ ประโยคแล้ว ก็ยังต้องสึกหาลาเพศออกไปเลย..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงหนักใจแทนท่านทั้งหลายที่ไม่เอาเรื่องสวดมนต์ไหว้พระ ไม่เอาเรื่องการเจริญพระกรรมฐาน เพราะว่าเท่ากับท่านผลักดันตัวเองให้ออกห่างจากความดีไปเรื่อย จนกระทั่งไม่เข้าใจกันแล้วว่าความดีที่แท้จริงเป็นอย่างไร ?!
โดยไปเชื่อพวกอินฟลูเอ็นเซอร์ใน TikTok หรือว่าเฟซบุ๊ก ตลอดจนกระทั่งยูทูบ ที่อ้างประโยคเด็ดว่า "ไม่ได้บวชมาเพื่อสวดมนต์" นั่นเป็นการทำลายภูมิปัญญาที่ตกผลึกแล้วของบรรพบุรุษเรา ที่สร้างเสริมวิธีการเข้าถึง ศีล สมาธิ ปัญญา อย่างง่ายที่สุดให้กับพวกเราทั้งหลาย
ในเมื่อปัญญาไม่ถึง สติไม่มี ก็ยังไปอวดโง่ด้วยการประกาศบอกคนอื่นเขา แล้วก็ทำให้บุคคลผู้ไร้ปัญญาจำนวนหนึ่งเชื่อตามไปด้วย เราก็ยิ่งออกห่างจากความดี กลายเป็นทาสของพญามารไปเรื่อย ไม่รู้ว่าอะไรคือความดีที่แท้จริง ? อะไรคือความสะใจเพียงชั่วคราว ?
ความดีที่แท้จริงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทาน ของศีล ของภาวนา เราก็แยกแยะไม่ออกว่าอะไรเป็นปิยวาจาที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ อะไรเป็นผรุสวาจาที่พระพุทธเจ้าทรงติเตียน แล้วเราก็ไปชื่นชมว่าเขามา "กระตุกสติ" ให้เรา ความจริงเขากำลังจูงเชือกที่สนตะพาย พาให้ท่านทั้งหลายลงเหวลงห้วยไปต่างหาก..!
แต่ด้วยความที่ขาดศีล สมาธิ จึงทำให้ไม่มีปัญญา ไม่สามารถที่จะมองเห็นทุกข์เห็นโทษที่เกิดขึ้นในระยะยาว ขาด "ภยทัสสาวี" ก็คือไม่เห็นภัยในวัฏสงสาร เอาแต่ความสะดวกสบายตามที่กิเลสบังคับตนเองให้เป็นไป แล้วก็ยังคิดเสียอีกว่าตนเองนั้นทำดีแล้ว ทำถูกแล้ว
กระผม/อาตมภาพจึงคิดว่า พระภิกษุสามเณรรุ่นหลัง ๆ ของเรา โดยเฉพาะผู้ที่จะรอดเงื้อมมือมารไปเป็นครูบาอาจารย์เขา คงจะต้องเหนื่อยยากอีกนาน เนื่องเพราะว่าสังคมของเราหลงเดินผิดทาง แล้วก็หลงตามกันไปมากขึ้นทุกที ๆ เพราะคิดว่าเป็นทางที่ถูกบ้าง เป็นความโก้เก๋บ้าง เป็นความสะใจบ้าง โดยที่ไม่รู้ว่าธรรมะที่แท้จริงคืออะไร ? ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจะไม่ให้สงสารท่านทั้งหลายก็คงจะเป็นไปไม่ได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-02-2025 เมื่อ 02:19
|