พระวชิรปัญญาภรณ์, ดร. หรือว่าท่านเจ้าคุณอ๋อ เลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๔ นั้น ต้องบอกว่ากระผม/อาตมภาพแทบจะปั้นมาด้วยมือตนเอง ก็คือท่านเป็นลูกศิษย์เรียนปริญญาตรี ปริญญาโทมากับกระผม/อาตมภาพ ซึ่งตอนนั้นเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าวิทยาลัยสงฆ์วัดไร่ขิงนั่นเอง
เมื่อกระผม/อาตมภาพลาออกจากวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี เพื่อไปเป็นประธานโครงการจัดหาทุนสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ ท่านก็ไปเรียนต่อจนจบปริญญาเอก แล้วก็ต้องมารับภาระงานอันหนักหนาสาหัส ทำท่าจะเครียดตั้งแต่อายุกาลพรรษายังไม่ถึง ๔๐ ดี กระผม/อาตมภาพจึงไม่ไปรบกวน หากแต่ว่าไปฉันเช้าร่วมกับพรรคพวกเพื่อนฝูงท่านอื่น ๆ
หลังจากนั้นก็มาฟังผู้บังคับบัญชาในคณะปกครองบรรยายถวายความรู้และให้กำลังใจแก่บุคคลที่เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย
พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณชัยวัฒน์ - พระธรรมวชิรเจติยาจารย์ (ชัยวัฒน์ ปญฺญาสิริ ป.ธ. ๙) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔
พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี
พระเดชพระคุณพระราชวชิรสุตาภรณ์ (พนม รตนาโภ - หลวงพ่อเจ้าคุณแก้ว) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม
พระเดชพระคุณพระราชวัชรสาครคณี (ดิเรก ปิติทานนฺโท - หลวงพ่อเจ้าคุณดิเรก) เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร
และท้ายสุดก็คือเพื่อนซี้กัน ท่านเจ้าคุณประไพ - พระสุพรรณวชิราภรณ์, ดร. (ประไพ ปุญฺญกาโม ป.ธ. ๓) เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2025 เมื่อ 02:19
|