ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 29-01-2025, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประเทศไทยของเราในปัจจุบันสืบเชื้อสายขึ้นไป จะมากจะน้อยก็ต้องมี "อากง อาม่า" กันแทบทั้งนั้น เนื่องเพราะว่าคนจีนเมื่อมาอยู่ในประเทศไทย ได้รับความสะดวกสบาย จากที่องค์พระมหากษัตริย์ของเราเป็นผู้ที่ใจกว้าง ให้ความสงเคราะห์ต่อบุคคลเสมอหน้ากัน ก็เลยแต่งงาน ปะปนจนกระทั่งกลืนกลายมาถึงปัจจุบัน ทำให้ประเพณีต่าง ๆ ของจีนมีปะปนอยู่ในประเพณีไทยเป็นปกติ

แม้แต่กระผม/อาตมภาพ สมัยก่อนบวช ก็ยังไหว้เจ้าที่บ้านให้เสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วถึงเข้าวัดไปถวายสังฆทาน ต้องบอกว่า
ถ้าเราแยกแยะออกว่าอะไรเป็นแบบธรรมเนียมจีน อะไรเป็นแบบธรรมเนียมไทย อะไรเป็นศาสนาพุทธ อะไรเป็นลัทธิหยูของขงจื๊อ เราก็จะไม่เสียเวลาไปตำหนิใคร

เนื่องเพราะว่าเรื่องของจารีตประเพณีนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ครอบงำประชากรส่วนใหญ่ที่เคารพนับถือ ต้องบอกว่าสำคัญรองลงมาจากกฎหมายบ้านเมืองทีเดียว เนื่องเพราะว่าบางที่ยึดถือจารีตประเพณีเคร่งครัด แต่ไปขัดกับกฎหมายบ้านเมือง เขาก็ปฏิบัติตามจารีตนั้น โดยที่ไม่ได้ใส่ใจกฎหมายเลยก็มี ดังนั้น..เรื่องพวกนี้เราต้องแยกแยะให้ออก

ในขณะเดียวกัน เรื่องของการไหว้เจ้าไหว้ผีอะไรก็ตาม บางอย่างก็แฝงเอาไว้ด้วยหลักธรรมที่เราคิดไม่ถึง อย่างเช่นว่าอปจายนมัย การอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้อื่น ในเมื่อเทวดาท่านมีศักดานุภาพสูงกว่า เราก็ให้ความเคารพให้ความนับถือ หรือว่าในเรื่องของผี ซึ่งมีผู้ที่อดอยากอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเปรต อสุรกาย หรือว่าบรรดาสัมภเวสีที่ไม่มีญาติพี่น้องทำบุญให้ ประเพณีจีนนั้นเมื่อถึงเวลาหน้าสารทก็จะมีการไหว้ผี ที่คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า "ไป้ห่อเฮียตี๋" ซึ่งก็คือการไหว้พี่น้องอันประเสริฐ

กระผม/อาตมภาพได้รับการไหว้วานจากผู้ใหญ่ ให้เป็นคนไปปักธูปเชิญผีไม่มีญาติทั้งหลายเหล่านี้ มากินอาหารที่เตรียมไว้ให้ ซึ่งเราต้องเดินไปในทิศทั้ง ๔ ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้ ปักธูปเชิญเขาแล้วก็เดินกลับมายังบริเวณที่ตั้งสำรับ ซึ่งเมื่อได้รับการฝึกมโนมยิทธิแล้วก็เห็นว่า บรรดาเปรต อสุรกาย หรือว่าสัมภเวสีไร้ญาติเหล่านั้น แห่กันมากินข้าวปลาอาหารที่เตรียมไว้ให้แบบมืดฟ้ามัวดิน..!

แล้วที่เป็นอัศจรรย์ก็คืออาหารที่เหลือเหล่านั้น เมื่อเราเอามากินดู ปรากฏว่าจืดชืดไร้รสชาติไปเลย พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงท่านอธิบายว่า ในส่วนของโอชะ คือรสชาติที่เป็นนามธรรมนั้น โดนพวกผีกินไปหมดแล้ว ก็เหลือเพียงแค่เปลือกที่เป็นส่วนหยาบทิ้งไว้ให้เรา จึงจืดชืดไร้รสชาติ แทบไม่มีใครอยากที่จะกินต่อ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2025 เมื่อ 01:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา