วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ สำหรับคนไทยเชื้อสายจีนเรียกง่าย ๆ กันว่า "วันไหว้" ก็คือจะเป็นวันที่ไหว้เจ้าตามความเชื่อของคนจีนกัน ซึ่งในระยะหลังมีผู้รู้หลายท่านที่ต้องบอกว่ารู้ไม่จริง ไปตำหนิด่าว่าบุคคลที่ไหว้เจ้าว่าเป็นพุทธภาษาอะไรถึงไปไหว้ผีแบบนั้น !?
ที่กระผม/อาตมภาพใช้คำว่าเป็นผู้รู้แต่รู้ไม่จริง ก็เพราะว่าไปเอาศาสนาพุทธกับลัทธิหยูของขงจื๊อมาปะปนกัน เนื่องเพราะว่าคนจีนนั้นโดนครอบงำด้วยลัทธิหยูของขงจื๊อมาเป็นพัน ๆ ปี โดยเฉพาะเน้นในเรื่องของความกตัญญู จึงต้องมีการไหว้บรรพบุรุษ มีการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ
ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราก็ยังสอนในเรื่องของเทวตานุสติ คือการระลึกถึงคุณงามความดีของเทวดา ตั้งแต่ต่ำ ๆ เลยคือต้องมีหิริ - โอตตัปปะ รู้จักละอายชั่วกลัวบาป สูงขึ้นไปกว่านั้นก็ต้องมีศีล ๕ บริสุทธิ์
ถ้าจะเอาสูงกว่านั้นก็ต้องทรงสมาธิภาวนาได้ ถ้าถึงขนาดพระวิสุทธิเทพบนพระนิพพาน คือเทวดาผู้บริสุทธิ์สิ้นเชิงนั้น ก็ต้องตัดกิเลสเป็นสมุจเฉทปหาน เข้าสู่พระนิพพานได้ เพียงแต่ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เชื่อมั่นในศักยภาพของพุทธศาสนิกชนว่า สามารถพัฒนาตนเองให้เป็นเทวดาได้ ไม่ว่าจะเป็นเทวดาชั้นต้น เทวดาเบื้องกลาง และเทวดาชั้นสูงสุด แต่ศาสนาอื่นนั้นมักจะมองเทวดาเป็นผู้มีอำนาจ ที่ต้องคอยประจบเอาใจ จึงมีการกราบไหว้บวงสรวง ร้องขอวิงวอนต่าง ๆ
ประเทศไทยของเรานั้น มีพี่น้องเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมากมายมหาศาล ซึ่งเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทย แม้กระทั่งภายในพระบรมราชจักรีวงศ์ ก็ยังมีงานสังเวยพระป้ายทุกปี เนื่องเพราะว่าเชื้อสายกษัตริย์ไทยนั้นมีเชื้อจีนแทรกอยู่ด้วย
ดังนั้น..ในเรื่องของการไปตำหนิว่าเป็นพุทธทำไมถึงไหว้ผี ต้องบอกว่าคนตำหนิค่อนข้างที่จะ "ไอคิวเตี้ย ไอเดียต่ำ ปัญญานิ่ม" เอาเรื่องของศาสนาพุทธไปปะปนกับลัทธิหยูของจีน และไม่ได้ดูผลตรงที่ว่า ความกตัญญูกตเวทีนั้นเป็นสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสรรเสริญไว้มาก
ไม่ว่าจะเป็นนิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี หรือว่าภูมิ เว สัปปุริสานัง กตัญญูกตเวทิตา ความกตัญญูกตเวทีเป็นพื้นฐานสำคัญของบุคคลทั้งหลาย ในเมื่อ "จับแพะชนแกะ" แถมยังชนไม่ถูกแล้วยังไปตำหนิคนอื่น ก็เป็นเรื่องที่ท่านผู้พูดเหล่านั้นควรที่จะศึกษาเรียนรู้ให้ลึกซึ้งกว่านี้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2025 เมื่อ 01:31
|