หรือไม่ก็จะไปกราบขอหลวงปู่นารทะ วัดโพธิ์พันต้น (โบดิ๊ตะเทา) เมืองหม่งยัว มณฑลสะกาย ซึ่งคุ้นเคยกันในตอนที่ไปกราบท่าน แล้วท่านยังมอบปรอททองคำมาให้เป็นกำมือ โดยที่ในแต่ละวันท่านจะแจกแก่ญาติโยมเป็นหมื่น ๆ คนที่ไปขอรับ คนละ ๒ เม็ด ให้เอาไปจำหน่ายเพื่อเป็นเครื่องเลี้ยงชีพตนเอง เพราะว่าปรอทที่ท่านทำนั้นกลายเป็นทองคำจริง ๆ
กระผม/อาตมภาพเรียนหลวงปู่ว่า "ขอรับตามโควต้าทั่วไปแค่ ๒ เม็ด ส่วนที่เหลือถวายคืนหลวงปู่เอาไว้แจกญาติโยม จะได้ไม่ต้องไปเหนื่อยทำอีกครับ" ท่านก็ยังยิ้มชอบใจ แต่ว่ากลับไม่ใช่หน้าที่ของครูบาอาจารย์สองท่านนี้ กลายเป็นท่านปู่ท้าวสหัมบดีพรหมไปเอาต้นตำรับ ก็คือบรมครูปู่พระฤๅษีโบโบอ่องมาแทน
อีกส่วนหนึ่งก็คือกระผม/อาตมภาพนำเอาพระขรรค์ที่เซียนไก่บ้านฆ้อง (คุณปริญญา นัทธี) ถวายมา เข้าพิธีอีก ๒ เล่ม และน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ก็ยังอุตส่าห์ไปผาติกรรม "มีดผ่าฟืน" ของท่านพันแสนมา ๑ เล่ม เข้าพิธีด้วย
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ท่านพันแสนนอกจากมีความรู้ในเรื่องของ มีด ดาบ หอก แหลน หลาว เหล่าอาวุธโบราณแล้ว ยังสร้างสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ขึ้นมาใช้งานเอง ตลอดจนกระทั่งสั่งสอนให้กับบรรดาญาติโยมที่สนใจวิชาการทางด้านนี้ เพื่อที่จะได้มีอาชีพในการทำมาหากินต่อไปได้
เพียงแต่ว่ามีดผ่าฟืนที่ท่านทำมานั้น นอกจากจะคมกริบประหนึ่งใบมีดโกนแล้ว การเข้าฝักเข้าด้าม ไม่ว่าจะเป็นแหม หรือว่าโลหะรัดด้าม ปลอกรัดกั่น ล้วนแล้วแต่ทำอย่างประณีต จนน้องเล็กเห็นแล้วเสียดาย จึงขอผาติกรรมไว้ใช้งานเอง ในเมื่อได้มาแล้วจึงพลอยเอามาเข้าพิธีไปด้วย
ส่วนนี้ท่านปู่พระอินทร์มอบหมายให้ท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณรับภาระไป เนื่องเพราะว่า ๑ ใน ๕ เทพศาสตราวุธที่โดนอ้างถึงอยู่เสมอ ในการใช้อาวุธประเภทมีดหมอหรือว่าไม้เท้า ก็คือกระบองของท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณนี่เอง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-01-2025 เมื่อ 07:34
|