กฎหมายฉบับนี้นั้น ใช้เวลาหลายปีที่คณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรมของทางคณะสงฆ์ ต้องช่วยปรับปรุงแก้ไขร่วมกับทางราชการ จนกระทั่งสามารถออกมาเป็นกฎหมายได้อย่างที่เห็นอยู่ในทุกวันนี้ มีการประชุมกันหลายสิบวาระด้วยกัน กว่าที่จะหลุดออกมาเป็นกฎหมายได้ ก็เหนื่อยยากกันแทบจะล้มประดาตาย..!
แต่ว่าหลายต่อหลายอย่างก็ยังอยู่ในลักษณะของการติดขัด อย่างเช่นว่าบุคคลที่รับนิตยภัต ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๓๕ นั้น ไม่ว่าท่านจะดำรงตำแหน่งพระสังฆาธิการกี่ตำแหน่งก็ตาม เขาจ่ายนิตยภัตให้เฉพาะตำแหน่งสูงสุดตำแหน่งเดียวเท่านั้น..!
เมื่อมีพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ ออกมา จึงมีการเขียนระบุเอาไว้ชัดเจนว่า สามารถที่จะตั้งอนุบัญญัติต่อมาได้ ถ้าหากว่าทางคณะกรรมการเห็นสมควร ก็แปลว่าต้องมีการศึกษาและถกเถียงกันต่อไปอีกว่า จะสามารถที่จะรับนิตยภัต หรือว่าอัตราเงินเดือนตามตำแหน่งที่ตนเองดำรงอยู่ทุกตำแหน่งหรือไม่ ?
อย่างกระผม/อาตมภาพปัจจุบันนี้ ก็รับอัตราเงินเดือนตามตำแหน่งของตนที่รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ในฐานะพระครูสัญญาบัตร เทียบเท่าเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ตำแหน่งอื่น ๆ ก็ไม่สามารถที่จะรับได้ แล้วถ้าหากว่าเราเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย หรือว่าวิทยาลัยสงฆ์ เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษา และเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมด้วย เรียกง่าย ๆ ว่าเหนื่อยกับทุกตำแหน่ง แต่ว่าท่านให้รับเงินแค่ตำแหน่งเดียวนั้น ก็รู้สึกว่าจะไม่ยุติธรรมอยู่เหมือนกัน
เพียงแต่ว่าการศึกษาพระปริยัติธรรมของคณะสงฆ์ในอดีตมานั้น ส่วนใหญ่แล้วก็อยู่ในลักษณะของการกระทำแบบเป็นกุศล ก็คือทางด้านผู้ที่ตั้งสำนักศาสนศึกษาขึ้นมา ไปหาการสนับสนุนจากญาติโยมซึ่งศรัทธาเฉพาะเจ้าสำนักนั้น หางบประมาณในการเรียนการสอนมา ขวนขวายที่จะสร้างบุคคลซึ่งมีโอกาสทางการศึกษาน้อยมาก ให้ได้มีการศึกษาต่อ ทำให้กลายเป็นบุคคลที่มีโอกาสในสังคมขึ้นมา จนกระทั่งปัจจุบันนี้ พระภิกษุสามเณรที่สนใจด้านการศึกษา จบปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอกเป็นจำนวนมาก
จนกระทั่งหลายคนไม่ทราบว่าเกิดอิจฉาตาร้อนหรือเปล่า ?! จึงได้กล่าวว่าพระภิกษุสามเณรนั้นเอาเปรียบชาวบ้านข้างนอก เพราะว่าการศึกษาก็ศึกษากันอยู่ในลักษณะที่จ่ายค่าหน่วยกิตน้อยกว่า เนื่องเพราะว่าทางมหาวิทยาลัยสงฆ์ หรือวิทยาลัยสงฆ์นั้น เก็บค่าหน่วยกิตต่ำมาก แม้ในปัจจุบันนี้จะมีการเพิ่มขึ้นมา ก็ยังต่ำกว่าภายนอกอยู่ดี..!
อย่างกระผม/อาตมภาพตอนที่เรียนปริญญาโทอยู่ จ่ายค่าเทอมแต่ละเทอมก็อยู่ที่ ๒๐,๐๐๐ กว่าบาท แต่ว่าบรรดาสถาบันราชภัฏทางด้านนอกชื่อดัง ๆ ต้องจ่ายกันเทอมละ ๖๐,๐๐๐ บาท ๙๐,๐๐๐ บาท..! เหล่านี้เป็นต้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2025 เมื่อ 02:38
|