วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ สองวันนี้ กระผม/อาตมภาพต้องจมอยู่กับความหนาวของเครื่องปรับอากาศ ในหอประชุมใหญ่พุทธมณฑล เพื่อเข้ารับการอบรมตามโครงการอบรมเจ้าสำนักศาสนศึกษาทั่วประเทศ
ความจริงแล้วการอบรมตามโครงการนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก เนื่องเพราะในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่พระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ ออกมา พวกเราก็ได้ข้อมูลแบบขาดตกบกพร่องมาโดยตลอด เมื่อได้มีการมาอบรม ศึกษา ได้รับการชี้แจงจากผู้เชี่ยวชาญ ก็ทำให้มีความมั่นใจและรู้ว่าควรที่จะปฏิบัติอย่างไร จึงจะถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้
เนื่องเพราะว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป บุคลากรทางการศึกษาของสำนักศาสนศึกษาทั่วประเทศ ก็จะกลายเป็นบุคคลที่ได้รับเงินเดือนของทางราชการ ซึ่งจะต้องมีระเบียบปฏิบัติที่ต่างไปจากปกติ
ส่วนใหญ่แล้วพระสังฆาธิการของเราเคยชินกับการที่ได้รับนิตยภัต ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งไม่ได้มีความยุ่งยากอะไรมาก นอกจากการแสดงหลักฐานตัวตนว่ายังมีชีวิตอยู่ ยังดำรงตำแหน่งหน้าที่นั้นหน้าที่นี้อยู่ เพื่อที่จะให้เป็นไปตามอัตรานิตยภัตของตำแหน่งนั้น ๆ แต่การมาเป็นเจ้าหน้าที่ของการศึกษาพระปริยัติธรรม หรือที่ตัวย่อว่า จศป. นั้น มีข้อประพฤติปฏิบัติที่ยุ่งยากขึ้นไปอีกหลายเท่า แต่ก็ไม่เกินความสามารถที่เราจะศึกษาและกระทำตามได้
เพียงแต่ว่าในการอบรมทั้งสองวันนั้น บรรดาเจ้าสำนักศาสนศึกษาใน ๒๓ จังหวัดหนกลาง ไม่ค่อยที่จะให้ความสำคัญ ประการแรก อาจจะเป็นเพราะว่าอากาศในหอประชุมใหญ่พุทธมณฑลนั้นหนาวเหลือรับ จึงจำเป็นที่จะต้องออกไปเดินตากแดดภายนอก หรือว่าเดินซื้อหาสินค้าตามร้านค้าที่มาตั้งจำหน่าย
ประการที่สองก็คือ ให้ความสนใจกับน้ำชากาแฟที่เขามาตั้งร้านเลี้ยงถวายพระมากกว่า เมื่อถึงเวลาเรียกเข้าห้องก็ไม่ค่อยจะมากัน อะไรที่สงสัยข้องใจ แทนที่จะสอบถามกันภายในห้องประชุม ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญชี้แจงทุกอย่างให้ทราบได้ แต่กลับไม่ใส่ใจ พอถึงเวลาแล้วก็ไปว่าอย่างโน้นอย่างนี้กันเองทางภายนอก ประมาณว่ารู้มาก แต่ว่ารู้ไม่จริงสักเรื่อง..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-01-2025 เมื่อ 02:31
|