ต้องบอกว่าคณะของเรานั้นอยู่ในลักษณะของ "ธรรมะจัดสรร" ว่าให้โชคดีสุด ๆ เนื่องเพราะว่ามาตรงกับช่วงที่เขาจะแข่งกีฬา Asian Winter Games ๒๐๒๕ พอดี ทุกสถานที่จึงจัดเต็มอยู่ในลักษณะสวยที่สุดเท่าที่จะพึงมีได้ เท่านั้นยังไม่พอ ยังเป็นช่วงที่ประเทศจีนหนาวที่สุดในรอบ ๓๐ ปีอีกต่างหาก จนกระทั่งน้องปูเป้ยังบอกว่า ทำหน้าที่ไกด์ประจำคณะทัวร์มาหลายปีแล้ว ส่วนมากก็อยู่ที่แค่ -๑๐ กว่าองศาเซลเซียสเท่านั้น เจอแต่คณะของ "หลวงตา" นี่แหละที่ลบถึง ๓๑ องศาเซลเซียส จนถือว่าเป็นเกียรติประวัติเฉพาะตนได้เลย..!
พวกเราเที่ยวหาซื้อข้าวของต่าง ๆ โดยเฉพาะมาสค็อต หรือว่าตุ๊กตานำโชคทั้ง "ปินปิน" และ "นีนี่" ซึ่งเป็นมาสค็อตนำโชคของงาน Asian Winter Games ๒๐๒๕ มากน้อยตามจำนวนคนที่จะต้องเอาไปฝาก ครั้นจ่ายเงินปรากฏว่าคอมพิวเตอร์พังไปเรียบร้อย..! กระผม/อาตมภาพจึงขนของออกจากร้านโดยที่ไม่มีใบเสร็จมาด้วย คุณนายโย (นางสาวทัศน์วรรณ พิพัฒน์รังสรรค์) นิมนต์พระไปฉันเพล พร้อมกับประเคนอาหารมังสวิรัติมาให้ ก็คือมีพายและผลไม้ต่าง ๆ มากมาย
เมื่อฉันเสร็จแล้ว ต่างคนต่างก็เดินดูสิ่งของตามอัธยาศัย กระผม/อาตมภาพตรงไปยังทางออกขึ้นเครื่องเลย นั่งรออยู่ตรงนั้นพักใหญ่ก็ได้ "ข่าวร้าย" มาว่า พวกเราต้องเดินออกนอกอาคารเพื่อไปขึ้นรถบัส นำไปส่งที่ท้ายสนามบิน ได้ยินดังนั้น กระผม/อาตมภาพก็นึกถึง "ต้าเหนียง" กับบริวารทันที ว่าถ้าเป็นแบบนี้ คณะของอาตมภาพน่าจะกลายเป็นไอศกรีมแท่งก่อนที่จะขึ้นรถอย่างแน่นอน..!
"ต้าเหนียง" บอกว่า "ไม่เป็นไร เพราะว่าเทียนหวางท่านมารับ" เมื่อหันไปมองตามทิศที่สายตาของทุกท่าน เห็น "ท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณ" มายืนตระหง่านค้ำฟ้า พร้อมกับ "ท่านพี่อสุรินทราหู" ที่พุงใหญ่พอกับภูเขา พอนึกแค่นั้นพี่ท่านก็ค้อนตากลับ บอกว่า "ถ้าไม่ได้ผมคอยแทรกกำลังให้ ท่านก็หนาวตายไปแล้ว ยังจะมาตำหนิ (บูลลี่) พุงของผมอีก..!"
แถมความรู้ให้ด้วยว่า "กลับไปถึงเมืองไทยแล้ว โดยเฉพาะที่ทองผาภูมินั้น ให้ไปแช่น้ำพุร้อนเสีย ๒ - ๓ วัน เพื่อไล่ความเย็นออก ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะเป็นโรคหนาวในกระดูก จนกระทั่งรู้สึกปวดไปทั้งตัวก็ได้ ส่วนท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณได้ขอบอกขอบใจ "ต้าเหนียง" และคณะ ซึ่งทั้งหมดตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "เป็นหน้าที่ซึ่งพึงปฏิบัติ"
อากาศก็เลยโดนดึงฮวบ ๆ ขึ้นมาอยู่ที่ -๑๑ องศาเซลเซียส เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วและอนุญาตให้พวกเราไปขึ้นรถบัส จึงกลายเป็นอะไรที่ "ชิล" มาก รู้สึกว่าสดชื่นจริง ๆ เนื่องเพราะว่าอากาศถ้าต่างกัน ๒ องศาเซลเซียสก็จะรู้สึกอุ่นแล้ว นี่กระโดดขึ้นมาจาก -๒๓ องศาเซลเซียส มาเป็น -๑๗ องศาเซลเซียส และตอนนี้อยู่ที่ -๑๑ องศาเซลเซียส แต่กระนั้นก็ตาม สนามบินฮาร์บินไท่ผิงทำไมถึงได้ใหญ่โตขนาดนั้น ? ใช้เวลาเป็น ๑๐ นาทีกว่าที่พวกเราจะวิ่งไปถึงเครื่องที่จอดอยู่ท้ายสนามบิน ถ้าเป็นบ้านเราก็ประมาณว่าเดินทางข้ามตำบลกันเลยทีเดียว..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-02-2025 เมื่อ 00:23
|