แต่คราวนี้ยุคนี้สมัยนี้เป็นยุคของความใจร้อนใจเร็ว แล้วเราศึกษาหลักเศรษฐศาสตร์ของตะวันตกมามาก ถือว่าถ้าเป็นหนี้แล้วมีเครดิต แต่ละคนก็เลยมีบัตรเครดิตกันเสียเยอะเลย บัตรเครดิตไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะ นอกจากใช้ล้างใช้ผลาญ เพราะว่าไม่เห็นตัวเงิน กว่าจะรู้ก็ตัดเงินเดือนของเราไปแล้ว..!
บัตรเครดิตเอาไว้สำหรับคนที่มีวินัย มีสัจจะ ตรงไปตรงมา ถึงเวลาก็ไปจ่ายอย่าให้ทันได้เสียดอก ถ้าอย่างนั้นบัตรเครดิตช่วยให้งานเราสะดวกขึ้น แต่ถ้าหากว่าเป็นคนไม่มีวินัย เป็นคนไม่มีสัจจะ เดี๋ยวก็ต้องเปิดใบที่สองมาโปะใบที่หนึ่ง เปิดใบที่สามมาโปะใบที่สอง หนี้สินก็มากขึ้นไปเรื่อย ๆ ท้ายที่สุดก็งอมืองอเท้ารอรัฐบาลล้างหนี้ให้ รอไปเถอะ..!
สังคมยุคใหม่เป็นสังคมของการใช้เงินอนาคต ก็คือทุกอย่างต้องผ่อน ก็แปลว่าเงินเดือนยังไม่ทันจะออก ก็มีสิ่งที่จะต้องจ่ายรออยู่เยอะแยะไปหมด เพราะว่าเขาให้โอกาสเราเอาเงินในอนาคตมาใช้ได้
ทองผาภูมิของเรานี่แหละ มีบัตรประชาชน ๑ ใบ เข้าไปดาวน์มอเตอร์ไซค์ออกมาได้เลย แถมค่าน้ำมันให้ ๕๐๐ บาท ร่ม ๑ คัน พัดลมอีก ๑ ตัว เอาไปวิ่งก่อน ๓ เดือน ไม่พอใจเอามาคืนได้ แต่ไม่เห็นมีใครเอาไปคืนสักคนหนึ่ง มีแต่ยอมไปวางดาวน์เสียแต่โดยดี..!
ก็เพราะว่าพอถึงเวลาเราขับรถไป เพื่อนเห็นก็ "เฮ้ย..มีรถใหม่นี่หว่า" คนนั่นก็ "สวยดีนี่..ราคาเท่าไร ?" เราก็ภูมิใจ..ยืด หารู้ไม่ว่าเงินในกระเป๋าเราทั้งนั้น..! เพราะฉะนั้น..พาหนะที่จะเป็นเครื่องช่วยให้เราเดินทางสะดวก ก็เลยกลายเป็นหน้าเป็นตาแทน ไม่กล้าเอาไปคืนเขา กลัวคนที่เคยเห็นว่าเรามีรถจะดูถูกเอา ต้องยอมไปวางดาวน์ผ่อนรถเสียแต่โดยดี..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น บ้านเราก็เลยเป็นหนี้เป็นสินกันอีรุงตุงนังไปหมด เพราะว่าขาดสันโดษ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พูดเรื่องสันโดษมาหลายต่อหลายปี พูดจนกระทั่งสวรรคต แต่พวกเราก็ยังไม่สันโดษเสียที เพราะเข้าใจคำว่าสันโดษผิด
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2025 เมื่อ 03:32
|