ครั้นขึ้นรถมาแล้ว น้องปูเป้ก็ตักเตือนพวกเราทั้งหมดว่าให้จัดเต็มเลย เนื่องเพราะว่าในลานนิทรรศการน้ำแข็งนั้นหนาวมาก ผู้ที่ไม่สามารถจะทนได้ เดินอยู่ ๑๐ กว่านาทีก็ให้หนีเข้าไปอยู่ในห้องพัก ซึ่งให้ความอบอุ่น ไม่เช่นนั้นแล้วจะแย่..! กระผม/อาตมภาพก็เลยมีคนช่วยแต่งตัว ไม่ว่าจะเป็นแผ่นรองเท้าช่วยให้เท้าอุ่น ตลอดจนกระทั่งแผ่นเคมีแปะตัวเพื่อเพิ่มความอบอุ่น แต่งตัวเสร็จแล้วก็เหงื่อแตกพลั่กอยู่ข้างใน เนื่องเพราะว่ารถติดมากเป็นพิเศษ ทั้ง ๆ ที่ระยะทางไม่ไกล เจ้าหน้าที่จราจรให้พวกเราวิ่งเลยไปจนกระทั่งถึงวงเวียนที่อยู่ไกลลิบ แล้วค่อยกลับรถย้อนกลับมาหน้างานอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเข้าไปทางด้านในก็เจอบรรดาเจ้าหน้าที่ช่วยจัดการจราจร ซึ่งสวมเสื้อโค้ตกันหนาว มีคำว่า "เป่าอัน" ติดอยู่ด้วยทุกคน พวกเราเข้าที่จอดรถแล้ว น้องปูเป้ก็นำเดินเข้าไปยังหน้างาน บริเวณหอนาฬิกาซึ่งแกะสลักจากน้ำแข็ง ด้านหนึ่งเป็นนาฬิกา อีกด้านหนึ่งเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิ ที่บอกอุณหภูมิแท้จริงของงาน ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ -๑๗ องศาเซลเซียส
เมื่อถ่ายรูปหมู่กันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางคณะเติมเต็มทราเวลก็นำพวกเราเข้าไปสู่ภายใน ซึ่งต้องผ่านด่านชั้นแล้วชั้นเล่า โดยเฉพาะมีการสแกนตัวด้วย ถ้าหากว่ากระเป๋าใครน่าสงสัย เจ้าหน้าที่ก็จะชี้ขอตรวจค้น กว่าจะหลุดเข้าไปรอตั๋วอยู่ด้านในได้ก็แทบแย่..!
ครั้นได้ตั๋วมาแล้ว กระผม/อาตมภาพกับป้ามอย (นางสาวมณีวรรณ สัมฤทธิ์) ซึ่งอายุ ๖๖ ปีเท่ากัน โดนน้องปูเป้กันออกมาจากคณะ บอกว่า "ผู้อาวุโสเกิน ๖๐ ปีต้องใช้ตั๋วครึ่งราคา เดี๋ยวมากับปูเป้ก็แล้วกันนะคะ" พวกเราก็เลยต้องผ่านไปให้อีกฝ่ายหนึ่งตรวจพาสปอร์ต ว่าหน้าตาตรงกับตัวเองหรือเปล่า ? ครั้นผ่านหลุดออกมาทางด้านนอกได้ ก็เป็นลานนิทรรศการใหญ่ ตรงหน้าของเราก็คือรูปของ "ปินปิน" และ "นีนี่" ซึ่งเป็นเสือโคร่งไซบีเรีย มาสค็อตของงาน Asian Winter Games ๒๐๒๕
พวกเราถ่ายรูปหมู่กันตรงนี้ แล้วน้องปูเป้ชี้ให้ดูทางออก ซึ่งเป็นทางช่อง C ที่เราเข้ามา บอกว่าถ้าหากว่าเดินดูกันจนครบแล้ว ให้เวลาไม่เกิน ๕ โมงเย็น ต้องมาออกประตูตรงนี้ ให้มองหาหอนาฬิกา ซึ่งพวกเราถ่ายรูปหมู่ก่อนจะเข้ามา เดินออกทางข้างหอนาฬิกาไปก็จะเป็นลานจอดรถ เดินตรง ๆ ไปจนกว่าจะเจอรถยนต์ของเรา แล้วก็ปล่อยพวกเราฟรีสไตล์ได้เลย
จุดที่พวกเราเข้ามานั้นเป็นด้านโซนเอเซีย ซึ่งจะมีน้ำแข็งแกะสลักเป็นรูปสถาปัตยกรรมสำคัญ ๆ ของแต่ละประเทศ ทางด้านประเทศไทยของเรานั้นก็คือ Grand Palace หรือพระบรมมหาราชวัง ซึ่งได้รับรางวัลที่ ๑ ของการแกะสลักด้วย กระผม/อาตมภาพไล่ถ่ายรูปไปเรื่อย แล้วก็ยังสงสัยว่าทำไม Grand Palace ของเราหน้าตาเป็นแบบนี้ แม้กระทั่งพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ หน้าตาก็ออกมาเหมือนกับพระมหาเจดีย์มหามิงกะลา ที่พุกาม ประเทศเมียนมาร์เลย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2025 เมื่อ 06:09
|