เมื่อพวกเราฝ่าความหนาวกลับมาบนรถแล้ว ก็แบ่งปันสิ่งที่ซื้อหามาให้ชิมกันคนละเล็กคนละน้อย แต่ว่าต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าอากาศบริเวณนั้น -๒๓ องศาเซลเซียส ข้าวของหลายอย่างแข็งกว่าหินเสียอีก ถ้าอยากจะกินก็ต้องอมเอาไว้จนกว่าจะละลายถึงจะเคี้ยวได้ แม้กระทั่งถังหูลู่นั้นก็กัดเข้ายากมาก เนื่องเพราะว่าเย็นจนแข็งไปหมด..!
กระผม/อาตมภาพต้องเอาแว่นดำมาใส่เพื่อป้องกันแสงสะท้อนจากหิมะ ซึ่งสาดเข้ามาทุกทิศทุกทาง เพราะมีประสบการณ์จากการไปเสฉวนตะวันตกมาแล้วว่า ถ้าเราไม่ใส่แว่นกันแดดในช่วงผ่านทุ่งหิมะ แค่วันเดียวก็จะทนไม่ได้แล้ว มักจะเจ็บตาจนน้ำตาไหล และกว่าที่จะหายก็เป็นเวลาหลายวัน
เราเดินทางมาถึงเมืองยาปู้ลี่ ต้องบอกว่าเป็นสถานที่และโอกาสที่เหมาะสมที่สุด เขาจะจัด Asian Winter Games ๒๐๒๕ กัน จึงมีการตกแต่งบ้านเมืองสวยงาม เหมือนกับตั้งใจที่จะต้อนรับพวกเราก็ไม่ปาน..! โดยเฉพาะเมื่อแวะเข้าไปเติมน้ำมัน ในปั๊มก็ยังมีพร็อพ Asian Winter Games ๒๐๒๕ ซึ่งมีมาสค็อตหรือว่าสัตว์นำโชคอยู่ ๒ ตัว ก็คือเสือโคร่งไซบีเรีย ตัวผู้ชื่อว่า "ปินปิน" ตัวเมียชื่อว่า "นีนี่" ซึ่งตอนแรกกระผม/อาตมภาพได้ยินว่า "ลี่ลี่" ไปเสียด้วยซ้ำไป กระผม/อาตมภาพที่ค่อนข้างจะไม่กลัวหนาว จึงลงไปถ่ายรูปกับพร็อพมาอวดญาติโยมกันได้ แต่บุคคลที่กลัวหนาวก็ต้องทนอยู่กันบนรถกันต่อไป
ออกจากปั๊มน้ำมันได้ไม่ไกลก็เข้าสู่ตัวเมืองยาปู้ลี่ พวกเราตรงไปที่ภัตตาคารเสียก่อน ต้องขึ้นไปยังชั้นบน ซึ่งทางเติมเต็มทราเวลได้จองโต๊ะเอาไว้แล้ว และโดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพเคยบอกแล้วว่า ถึงเป็นพระก็สามารถฉันร่วมกับญาติโยมได้ โดยที่เมื่อเขาประเคนอาหารมา พระเราก็ตักก่อน โดยที่ให้มีผู้ชายนั่งคั่นซ้ายขวาเอาไว้ก็พอ แต่ว่าทางเติมเต็มทราเวลกล้าทุ่มทุนสร้าง ก็คือสั่งโต๊ะถวายพระไปต่างหากเลย..!
เมื่อกระผม/อาตมภาพนั่งลงก็ต้องสะดุ้ง เพราะว่าเห็นเกี๊ยวผักจานมหึมา แทบจะเรียกว่าถาดก็ได้ ให้มาคนละถาด กระผม/อาตมภาพฉันไปได้แค่ ๔ - ๕ ตัวก็ต้องยอมแพ้ ส่งให้น้องปูเป้บอกว่าเอาไปกินกันต่อ แล้วสิ่งที่ตามมาอีกก็คือข้าวสวย ผัดผัก ผัดมันฝรั่งซึ่งซอยเป็นเส้น ๆ ตลอดจนกระทั่งน้ำแกงที่ประกอบไปด้วยมะเขือเทศและไข่ ซึ่งพวกเราแม้ว่าจะอร่อยแค่ไหนก็ตาม ก็ฉันได้ไม่มาก จนกระทั่งทางเจ้าของร้านหน้าเสีย ถามว่า "อาหารไม่อร่อยหรือ ?" เมื่อบอกว่าอร่อย แต่ว่าเคยชินกับการกินน้อยแต่เพียงแค่นี้ เขาถึงได้รู้สึกดีขึ้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2025 เมื่อ 05:33
|