ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 07-01-2025, 22:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพและคณะเริ่มทริป "ท่องแดนยมโลก" เพื่อที่จะเดินทางไปยังเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เหตุที่เรียกว่ารายการ "ท่องแดนยมโลก" ก็เพราะว่าเหมือนกับไปหาที่ตายชัด ๆ..! แล้วยมโลกก็เป็นธาตุหยินคือธาตุแห่งความเย็นตามความเชื่อของจีน การที่เราไปยังสถานที่ซึ่งเย็นจัดสุด ๆ แห่งหนึ่งของโลก ก็เลยถือว่าเป็นการไปเที่ยวสถานที่แห่งความตายนั่นเอง

เมื่อออกเดินทางมาจากวัดอุทยาน ตรงไปยังสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ กระผม/อาตมภาพรู้สึกหนาวมากเป็นพิเศษ ทั้ง ๆ ที่อากาศแค่ ๒๐ องศาเซลเซียส จึงได้ฉันยาแก้ไข้ไปก่อน เมื่อไปถึงสนามบิน ปรากฏว่าลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) เจ้าของเติมเต็มทราเวล มารอรับลูกทัวร์อยู่ ซึ่งพวกเราก็มาถึงหลายคนแล้ว อย่างเช่นว่าป้ามอย (นางสาวมณีวรรณ สัมฤทธิ์) คุณหนึ่ง (นายบัญชา เซ็นภักดี) คุณแบงค์ (นางศรินธร เซ็นภักดี) เป็นต้น เมื่อรวมกระผม/อาตมภาพกับพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.,ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยานเข้าไป ก็เท่ากับว่าพวกเรามาแล้ว ๑ ใน ๔ ของจำนวน ๒๐ คนแล้ว

ลูกกิฟท์ทำงานด้านของการจัดการกับลูกทัวร์ได้คล่องตัวมาก นำเอาแท็กมาติดกระเป๋าให้ มอบเอกสารในการเดินทาง โดยเฉพาะ Border Pass ที่ช่วยกรอกข้อมูลต่าง ๆ ลงไปให้กับลูกทัวร์ทุกคนที่ทยอยกันเข้ามา โดยที่พวกเราจะต้องกรอกอยู่แค่ ๒ แห่ง แห่งแรกก็คือหมายเลขโทรศัพท์ของตนเอง แห่งที่สองก็คือภายใน ๒ ปีที่ผ่านมา เคยเดินทางไปยังประเทศใดบ้าง ? แล้วนำเอาข้าวกล่อง ซึ่งเป็นผัดกะเพราและซาละเปาพร้อมกับขนมมาถวายให้เป็นอาหารเช้า

กระผม/อาตมภาพฉันเสร็จ ปรากฏว่ากระเป๋าหาย..! หันมาอีกทีลูกกิฟท์กำลังเอาไปชั่ง เพื่อที่จะขอให้เขาออกตั๋วให้ เมื่อเดินตามเข้าไป ถึงได้เห็นว่ากระเป๋าของตนเองนั้นหนักสุด ๆ อยู่ที่ประมาณ ๘ กิโลกรัมเศษเท่านั้น ส่วนใบที่ถือขึ้นเครื่องก็ตามกำหนดของเขาก็คือ ๗ กิโลกรัม และ ๗ กิโลกรัมนี้เป็นเครื่องกันหนาวเกือบทั้งหมด..! เสร็จแล้วกระผม/อาตมภาพก็ตรงไปยังทางเข้าเพื่อตรวจการออกจากเมือง ซึ่งเป็นทางด่วนสำหรับพระและบุคคลสำคัญที่เรียกว่า Fast Track โดยมีตากล้องเอ๋ (นายสุรชาติ บุญเจริญ) ช่วยหิ้วกระเป๋าหนัก ๗ กิโลกรัมตามไปให้

แต่ว่าเจ้าหน้าที่แนะนำให้ผ่านเครื่องอัตโนมัติไปเลย กระผม/อาตมภาพเองก็ยังคิดว่าจะรอดหรือไม่ ? เพราะว่าเท่าที่ผ่านมา การสแกนพาสปอร์ตไม่เคยผ่านสักครั้งเดียว แต่ปรากฏว่าครั้งนี้ เครื่องอัตโนมัติของสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิทำงานดีมาก ขึ้นข้อมูลและใบหน้าของกระผม/อาตมภาพมาให้ พร้อมกับบอกให้มองกล้อง

เมื่อหันไปมอง เครื่องอัตโนมัติยังบอกให้ถอดแว่นเสียก่อน..! แล้วก็ปล่อยผ่านมาโดยที่ไม่ได้ประทับตราในพาสปอร์ตเลย ไปยืนรอพรรคพวกอยู่พักใหญ่ กว่าที่จะมากันครบถ้วนและถ่ายรูปหมู่รวมกัน หลังจากนั้นตากล้องเอ๋และเพื่อนก็พากระผม/อาตมภาพไปนั่งรอที่ประตูขึ้นเครื่อง G1 ซึ่งยังไม่เปิด แล้วตนเองกับคนอื่นก็พากันไปหาอาหารเช้ารับประทานกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2025 เมื่อ 04:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา