ดังนั้น..เรื่องพวกนี้ถ้าหากว่าท่านใดสนใจที่จะเข้าอบรมนักเทศน์ ก็ให้ดูข่าวคราว ไม่ว่าจะเป็นที่วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร ซึ่งในปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นสำนักหลักในการแสดงพระธรรมเทศนา หรือว่าที่วัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร ที่มีการจัดอบรมนักเทศน์อยู่เสมอ แล้วก็สมัครไป
กระผม/อาตมาภาพเองนั้น จบการแสดงพระธรรมเทศนาด้วยการอบรมกัน ๑๕ วันที่สำนักวัดราชโอรสาราม วรวิหาร แล้วภายหลังก็ยังได้รับการขัดเกลาจากท่านเจ้าคุณอาจารย์พระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙, Ph.D.) ราชบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพปฏิภาณกวี (บุญมา อาคมปุญฺโญ ป.ธ. ๘) ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเทพวชิรวาที (ชัยวัฒน์ ธมฺมวฑฺฒโน) ซึ่งท่านทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น..ก็ต้องถือว่าตนเองนั้นเป็น "ศิษย์มีครู"
พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นต้นแบบนักเทศน์ที่กระผม/อาตมาภาพอาศัย "ครูพักลักจำ" มาก่อน แต่บังเอิญว่าจำเก่ง แล้วในขณะเดียวกัน ครูก็เป็นต้นแบบที่ดีมากและถูกต้อง จึงทำให้การไปอบรมนักเทศน์นั้นแทบไม่ต้องขัดเกลาอะไรเลย แต่ถ้าท่านที่จะเริ่มต้นใหม่ก็จะต้องเจอกับปัญหา อันดับแรกเลยก็คือบางท่านขึ้นธรรมาสน์ไปก็นั่งสั่นเสียแล้ว..!
แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ขอให้ทุกท่านตั้งใจฝึกฝนเอาไว้ด้วย เพราะสำหรับวัดท่าขนุนของเราแล้ว ไม่ว่าท่านจะเป็นพระใหม่หรือว่าพระเก่า ถ้าถึงคิวแล้วก็ต้องขึ้นแสดงธรรมเพื่อเอาประสบการณ์ไว้เสมอ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงบอกว่า "นักเทศน์ที่ดีนั้นต้องขัดเกลาตนเองด้วยการเทศน์อย่างน้อยก็ ๑๐๐ ธรรมาสน์ขึ้นไป ถ้าใครยังเทศน์ไม่ถึง ๑๐๐ ธรรมาสน์ จะจัดเป็นนักเทศน์ชั้นดีไม่ได้"
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2025 เมื่อ 09:33
|