ถ้าหากว่าเห็นจริงตามนั้น ก็น้อมจิตน้อมใจยอมรับ ถ้าเป็นเช่นนั้น กำลังใจของท่านก็เข้าใกล้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เข้าไปเรื่อย ๆ เนื่องเพราะว่าสมาธิทรงตัว เรามีความสุขสงบจากการที่ รัก โลภ โกรธ หลง เกิดไม่ได้ เราก็เห็นคุณในศีล ในสมาธิ ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ เริ่มที่จะทราบว่า คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร
เมื่อมีปัญญามองเห็นความเป็นจริงว่าสรรพสิ่งไม่เที่ยง สรรพสิ่งเป็นทุกข์ สรรพสิ่งไม่มีอะไรเป็นตัวตนเราเขาให้ยึดถือมั่นหมายได้ ถ้าท่านทั้งหลายเห็นจริงแล้ว สภาพจิตคลายจากการยึดมั่นถือมั่น ถอนตนออกจากการต้องการร่างกายนี้ ถอนตนออกจากการปรารถนาการเกิดอีก ท่านทั้งหลายก็สามารถที่จะถอยห่างจากวัฏสงสารเหล่านี้ออกไป ใกล้ไกลตามวาสนาบารมีที่ท่านได้สั่งสมมา หรือว่าก้าวพ้นห้วงวัฏสงสารนี้ เข้าสู่พระนิพพานได้ นั่นก็จะเป็นเป้าหมายสูงสุดในการปฏิบัติธรรมของเรา
ดังนั้น..การใช้ปัญญานั้น ส่วนหนึ่งต้องมองเห็นคุณพระศรีรัตนตรัยอย่างแท้จริง ว่าป้องกันเราไม่ให้ตกในที่ชั่วอย่างไร ? สามารถชำระใจของเราให้ผ่องใสจากกิเลสได้อย่างไร ? ความเคารพเลื่อมใสของเราก็จะมีมากขึ้นไปตามลำดับ ท้ายที่สุด "ตีก็ไม่ไป ไล่ก็ไม่หนี" เราก็จะมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-01-2025 เมื่อ 23:15
|