ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 26-12-2024, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แม้กระทั่งทางวัดท่าขนุน ตอนนั้นประมาณปี ๒๕๔๓ หรือว่า ๒๕๔๔ พระสมุห์สมพงษ์ เขมจิตฺโต ท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสใหม่ ๆ ไม่กล้าที่จะเข้าหน้าเจ้าคณะจังหวัด เพราะใคร ๆ ก็ลือว่า "หลวงพ่อไพบูลย์ท่านดุมาก..!" ความจริงหลวงพ่อไพบูลย์ท่านไม่ได้ดุ แต่เป็นคนที่เด็ดขาด และพูดจาไม่มีหางเสียงตามประสาเด็กบ้านนอก โดยเฉพาะท่านพูดกับพวกเราจะใช้คำประเภท "มึง..กู" อยู่เสมอ แต่ขอให้รู้ว่าท่านพูดในลักษณะเมตตามาก

เมื่อถึงเวลา พระสมุห์สมพงษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน รูปก่อนกระผม/อาตมภาพ จะตั้งสำนักเรียนบาลี ได้ชวนกระผม/อาตมภาพไปกราบขออนุญาตต่อหลวงพ่อไพบูลย์ ตอนนั้นท่านติดงานศพอยู่ที่ฌาปนสถานวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง)

เมื่อกระผม/อาตมภาพเล็งเห็นว่าท่านว่างจากญาติโยมชั่วขณะหนึ่ง จึงได้ดึงพระสมุห์สมพงษ์เข้าไปกราบตรงหน้า เรียนถวายท่านว่า "ทางวัดท่าขนุนต้องการจะเปิดสำนักสอนบาลี ถ้าหากว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อไม่ขัด กระผม/อาตมภาพจะได้ทำหนังสือมาถวายอย่างเป็นทางการครับ" ท่านบอกว่า "ไม่ต้องเสียเวลาทำหนังสือ พวกมึงกลับไปเปิดได้เลย ขาดเหลืออะไรให้บอก เดี๋ยวกูจะช่วย..!" นี่คือกำลังใจของหลวงพ่อไพบูลย์ ที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีทุกคนรักนักรักหนา

แม้กระทั่งโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์ที่อำเภอพนมทวน บ้านเกิดของท่านนั้น ก็เกิดจากการที่พวกกระผม/อาตมภาพเล็งเห็นว่า หลวงพ่อท่านขี่รถเก่า ๆ ไม่สมกับเจ้าคณะจังหวัดชั้นเทพ ซึ่งตอนนั้นดูแล้วยิ่งใหญ่มาก เพราะว่าเจ้าคณะจังหวัดอื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็อยู่แค่ชั้นราชเท่านั้น โอกาสที่จะขึ้นชั้นเทพยังน้อยมาก เนื่องจากว่าไม่ได้มีผลงานท่วมฟ้าท่วมดินเหมือนกับหลวงพ่อไพบูลย์ ซึ่งตอนนั้นท่านเป็นเจ้าคุณพระเทพปัญญาสุธีอยู่

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราจึงได้ปรึกษาหารือกัน แล้วก็ตกลงกันว่า พระสังฆาธิการระดับเจ้าอาวาสทุกวัด ให้พร้อมใจกันสละปัจจัยรูปละ ๒,๐๐๐ บาท เพื่อเอาไปถวายในวันเกิด ให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านซื้อรถคันใหม่

ทันทีที่ทราบเจตนารมณ์ของพวกเราในวันเกิดปีนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็บอกว่า "ขอบใจมากที่พวกมึงเห็นใจ รถของกูยังใช้งานได้ดีอยู่ แต่ลูกหลานกูที่พนมทวนยังไม่มีโรงพยาบาลดี ๆ ไว้รักษาตัวเอง เมื่อถึงเวลาก็ต้องเดินทางไกล ๆ กว่าจะมาถึงโรงพยาบาลพหลฯ ในตัวเมืองก็เสียเวลามาก บางคนอาการหนักก็เสียชีวิตไปเลย กูขอเอาเงินก้อนนี้ไปตั้งต้นสร้างโรงพยาบาลดีกว่า" ว่าแล้วท่านก็ลงมือทำเลย

โดยเฉพาะเมื่อว่างจากงานสงฆ์ ท่านก็จะไปร่วมผสมปูน หิ้วถังปูน
เทปูน บัญชาการ โดยที่ใส่เฉพาะสบง อังสะ มีผ้าอาบเคียนศีรษะอยู่ผืนเดียว ช่วยหิ้วปูน เทปูน กระทุ้งปูน อยู่กับพวกเราทุกวันจนตัวดำปี๋ ท้ายที่สุดโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์อุปถัมภ์ที่อำเภอพนมทวนก็สำเร็จเรียบร้อย หลวงพ่อท่านยังเมตตาหาเงินให้ช่วยซื้อเครื่องมือแพทย์ต่าง ๆ จนกระทั่งในที่สุดโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์อุปถัมภ์ ก็สำเร็จลงสมเจตนารมณ์ทุกประการ ในเมื่อมีผู้บังคับบัญชาเช่นนี้ แล้วจะไม่ให้พวกเรารักท่านได้อย่างไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2024 เมื่อ 00:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา