วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปถึงอาคารเฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษามหาราช วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ตั้งแต่ประมาณ ๖ โมงเช้าเหมือนเดิม
กราบเรียนพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ รองแม่กองธรรมสนามหลวงประจำหนกลางว่า วันนี้กระผม/อาตมภาพไม่ได้อยู่ถึงพิธีเปิด เนื่องเพราะว่าต้องไปเยี่ยมลูกน้อง ซึ่งเข้าอบรมตามโครงการอบรมครูพระสอนปริยัติธรรมแผนกธรรม ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อบรรจุเข้าเป็นครูประจำกองธรรมสนามหลวงในปีงบประมาณ ๒๕๖๗ ที่หอประชุมใหญ่พุทธมณฑล หมู่ที่ ๖ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม
พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคณะภาค ๑๔ ก็ยังทำหน้างง ๆ ว่า "งานอะไร ?" เมื่อกราบเรียนไป ท่านถึงบอกได้ว่า "เป็นงานคนละส่วนกัน" คือของท่านเองรับผิดชอบในส่วนของการสอบ การตรวจข้อสอบ แต่ว่าทางด้านโน้นรับผิดชอบในส่วนของการผลิตครูพระ
เมื่อฉันภัตตาหารเช้าและเซ็นชื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวเดินทางไปยังพุทธมณฑล พอเข้าไปถึงด้านในก็ต้องสะดุ้ง เนื่องเพราะว่าในหอประชุมใหญ่นั้น เปิดเครื่องปรับอากาศไว้เย็นมาก ๆ กระผม/อาตมภาพมาจากทองผาภูมิซึ่งอุณหภูมิลดฮวบ ๆ จาก ๑๖ องศาเซลเซียส ลงมาเป็น ๑๔ องศาเซลเซียส ลงมาเป็น ๑๒ องศาเซลเซียส พูดง่าย ๆ ว่าลดวันละ ๒ องศาเซลเซียส ยังไม่รู้สึกเย็นเท่ากับนั่งอยู่ในหอประชุมพุทธมณฑลนี้เลย..!
พระครูพิมลสรกิจ เลขานุการรองแม่กองธรรมสนามหลวง ได้มาให้การต้อนรับ เรียนว่า "นิมนต์พระอาจารย์นั่งแถวหน้าเลยครับ อยู่ทางด้านหลังองค์ประธานไปเลย คาดว่าคงจะไม่มีใครมาอีกแล้ว นอกจากเจ้าหน้าที่ของกองธรรมสนามหลวง"
ปรากฏว่าอีกครู่หนึ่ง หลวงพ่อพระครูบวรธรรมานุสิฐ (สอน ปวโร) เจ้าคณะอำเภอพุทธมณฑล เจ้าอาวาสวัดมะเกลือ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ก็เดินทางมาถึง จึงได้นั่งปรารภกันว่า "ทำไมเขาถึงเปิดเครื่องปรับอากาศให้เย็นขนาดนี้ ?" ไม่คิดบ้างเลยหรือว่าที่มาอบรมกันในวันนี้ ก็คือครูพระสอนศีลธรรมในหนกลางและหนใต้ ซึ่งหนกลางนั้น สถานที่เย็นที่สุดก็น่าจะเป็นอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ขนาดนั้นกระผม/อาตมภาพยังรู้สึกทนแทบจะไม่ไหว หนใต้นั้นไม่ต้องพูดถึงเลย ก็คือมีแต่ฤดูร้อนกับฤดูฝนเท่านั้น แต่ในเมื่อไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องทนนั่งกันต่อไป..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2024 เมื่อ 03:25
|