มาจนถึงปัจจุบัน อย่างกระผม/อาตมภาพรับในฐานะของพระครูสัญญาบัตรเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ก็อยู่ที่ ๓,๑๐๐ บาทต่อเดือน ก่อนหน้านี้รับในตำแหน่งเจ้าอาวาสตั้งแต่ ๕๐๐ บาท เพิ่มขึ้นมาเป็น ๑,๕๐๐ บาท เพิ่มขึ้นมาเป็น ๑,๘๐๐ บาท ปัจจุบันนี้ ถ้าหากว่าญาติโยมท่านใดรับเงินเดือน ๓,๑๐๐ บาทแล้วสามารถอยู่ได้ ช่วยยกมือบอกกระผม/อาตมภาพด้วย อยากจะไปขอศึกษาว่า "ท่านทำอย่างไรถึงอยู่รอดมาได้โดยไม่อดตายเสียก่อน..!"
โดยเฉพาะของทางวัดท่าขนุนนั้น เฉพาะค่าไฟฟ้าก็ตกเดือนหนึ่ง ๕๐,๐๐๐ กว่า ๖๐,๐๐๐ บาทอยู่แล้ว แล้วคิดดูว่านิตยภัตที่ท่านทั้งหลายเรียกแบบไม่ดูว่า "เงินเดือนพระ" จำนวน ๓,๑๐๐ บาท จะเพียงพอไปยาขี้ฟันอะไร ?!
แต่ก็ยังมีบุคคลพยายามที่จะกล่าวถึงว่า เป็นพระภิกษุสามเณรไม่ควรที่จะรับเงิน ถ้าหากว่าไปอยู่ป่าอยู่เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่น โดยไม่ได้นึกถึงบริบทสังคมในปัจจุบันของเราว่า ยังมีป่าเขาที่ไหนให้อยู่อาศัยอีก ? แล้วถ้าไปอยู่อาศัยในลักษณะอย่างนั้น เป็นการตัดตัวเองออกจากสังคม แล้วจะไปสร้างประโยชน์แก่ชนหมู่มาก สร้างความสุขแก่ชนหมู่มาก อนุเคราะห์แก่โลกตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสั่งเอาไว้ได้อย่างไร ?
อีกส่วนหนึ่งก็ที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ แม่กองธรรมสนามหลวงได้ปรารภในวันนี้ ก็คือท่านบอกว่า พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรเจติยาจารย์ (ชัยวัฒน์ ปญฺญาสิริ ป.ธ. ๙) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๔ ที่พวกกระผม/อาตมภาพเรียกกันด้วยความเคารพเป็นการส่วนตัวว่า "หลวงพ่อเจ้าคุณชัยวัฒน์" ซึ่งตั้งแต่ท่านเรียนจบเปรียญธรรม ๙ ประโยคแล้ว ก็ได้เข้าไปช่วยงานในกองธรรมสนามหลวงตลอดมา เมื่อเริ่มมีการผลักดันให้มีงบประมาณมา เพื่อที่จะมอบให้เป็นกำลังใจแก่บรรดาครูผู้สอนต่าง ๆ
พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณชัยวัฒน์ ท่านปรารภกับสมเด็จฯ แม่กองธรรมว่า "เหมือนกับพวกเราเป็นลูกจ้างฆราวาส" ซึ่งตรงนี้สมเด็จฯ แม่กองธรรมท่านบอกว่า "กระทบใจ" ท่านอย่างมาก เนื่องเพราะว่าเหตุเสื่อมเสียที่เกิดขึ้นในพระพุทธศาสนานั้น ความเสียหายเรื่องเงินเป็นเรื่องที่เสียง่ายที่สุด..!
อย่างเช่นว่าถ้าสำนักศาสนศึกษาหนึ่ง ส่งรายชื่อครูพระสอนทั้งนักธรรมและบาลีไป อย่างเช่นของวัดท่าขนุน แม้ว่าจะมีครูพระนับ ๑๐ รูป แต่กระผม/อาตมภาพก็ส่งไปแค่อย่างละ ๕ รูปเท่านั้น ก็คือครูพระสอนแผนกธรรม ๕ รูป ครูพระสอนแผนกบาลี ๕ รูป ทั้ง ๆ ที่ผู้ที่ทำงานมีมากกว่านั้น แล้วกระผม/อาตมภาพถึงเวลาก็ควักปัจจัยสนับสนุน ตลอดจนกระทั่งมอบวัตถุมงคลรุ่นเก่าหายาก ให้เป็นกำลังใจแก่ทุกท่านในทุกปี แต่ว่าจุดที่จะเสียหาย ซึ่งสมเด็จฯ แม่กองธรรมท่านได้ปรารภเอาไว้ก็คือ ถ้าหากว่าไม่มีครูสอนตามนั้น แต่เราส่งรายชื่อไปเบิกเงินเดือน แล้วความเป็นพระของเราจะเหลือหรือไม่ ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2024 เมื่อ 23:45
|