"คลังหลวงของเราก็คือหัวใจของชาติไทยเรา รักษากันมานมนาน ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ปู่ย่าตายายแห่งประเทศไทยของเรา รักษาสมบัติกองนี้ไว้มาตลอด ไม่เคยมีใครมาแตะต้อง แม้รัฐบาลมากี่ชุดก็ไม่เคยมีรัฐบาลใดมาแตะต้องเงินจำนวนนี้
เพราะฉะนั้น..เมื่อได้ทราบว่าจะเอาเงินเหล่านี้มารวมกัน ๓ กองนับจำนวนหนึ่งกองนี้ด้วยเข้าไปนั้น เราจึงไม่เห็นด้วยตามหลักของธรรม แล้วไม่ใช่ด้วยเป็นทิฏฐิมานะของเรา ถึงขนาดที่ว่าเราขอบิณฑบาต ขออย่าได้มาแตะต้องเงินจำนวนนี้เลย ซึ่งเท่ากับการเข้ามาทำลายชาติของเราทั้งชาติทีเดียว"
อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลมีความจำเป็นเกี่ยวกับภาระหนี้สินของชาติ ก็อาจยังพอมีหนทางแก้ไขได้ โดยไม่กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยของคลังหลวง ซึ่งเป็นสมบัติปราการด่านสุดท้ายของชาติ
แม้องค์หลวงตาจะขอร้องถึงเพียงนี้แล้วก็ตาม รัฐบาลยังคงเมินเฉยและไม่มีท่าทีจะยุติ ยังเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อทางสื่อ หนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ เพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนเห็นคล้อยตาม โดยให้ข้อมูลเพียงบางส่วน หรือบางครั้งถึงกับบิดเบือนความจริง ทำให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยเข้าใจเจตนารมณ์ของ "โครงการช่วยชาติ" ผิดไป และเริ่มตำหนิติเตียน จนในที่สุดองค์หลวงตาจำเป็นต้องแสดงพระธรรมเทศนาอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ยุติการออกกฎหมาย ดังต่อไปนี้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2024 เมื่อ 01:24
|