เมื่อขนเอาวัตถุมงคลขึ้นรถเพื่อเตรียมส่งให้กับไอ้ตัวเล็กแล้ว ก็มาติดตามข่าวสารบ้านเมือง แล้วก็เจอเนื้อหาน่ารำคาญใจอีกแล้ว..!
เนื่องเพราะว่ามี "ต้นไม้พิษแก่ ๆ" ต้นหนึ่ง ที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาแบบสุดโต่ง ตีความเอาด้วยตนเองแบบผิด ๆ พลาด ๆ แล้วดันไปสร้างหมู่ลูกศิษย์ที่เป็น "ผลไม้พิษ" ออกมา ซึ่งตอนนี้ลูกศิษย์มาบอกว่า การสวดมนต์ข้ามปีนั้นเป็นประเพณีที่ผิดพลาด ทำแล้วไม่ได้บุญ ซ้ำยังจะตกนรกอีกต่างหาก..!
กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ถอนใจว่า ชีวิตนี้ของกระผม/อาตมภาพก็คงต้องตามแก้ทิฏฐิของ "ต้นไม้พิษแก่ ๆ" และบรรดา "ผลไม้พิษ" เหล่านี้ไปจนกว่าจะสิ้นชีวิตเป็นแน่แท้..!
การสวดมนต์ข้ามปีเพื่อสร้างกุศลรับปีใหม่นั้น กระผม/อาตมภาพเคยกล่าวแล้วว่า การสวดมนต์นั้นมีคุณประโยชน์อย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสมาธิในเบื้องต้น ใช้เป็นคำภาวนาเพื่อสร้างอัปปนาสมาธิให้สูงขึ้น สามารถสร้างเป็นทิพจักขุญาณได้ ตลอดจนกระทั่งบางอย่างสวดไปแล้วสามารถรักษาโรคได้อีกต่างหาก..!
โดยเฉพาะถ้ากำลังสมาธิของเราทรงตัว ก็แทบจะเป็นการประกันคติ คือ ที่ไปในโลกหน้าได้อีกด้วย เนื่องเพราะว่าถ้าทรงสมาธิได้คล่องตัว ก็มีโอกาสเกิดเป็นพรหม ถ้าสมาธิไม่คล่องตัว แต่กำลังใจเราเกาะติดอยู่กับการสวดมนต์ภาวนา ก็จะได้เป็นเทวดา โดยเฉพาะชั้นยามาในฉกามาพจรนั้น
กระผม/อาตมภาพไม่เข้าใจเหมือนกันว่า คนที่ทุ่มเทถึงขนาดต้องฝ่าความหนาวออกจากบ้านไปตามวัดวาอาราม เพื่อทำการสวดมนต์ข้ามปีรับปีใหม่ แล้วหลายวัดก็ยังมีการนำเจริญสมาธิภาวนาอีกด้วย การที่เราทำความดีไม่ว่าจะเริ่มจากการรับศีล หลังจากนั้นก็สวดมนต์ตามที่แต่ละวัดนำสวด ต่อด้วยการเจริญสมาธิภาวนา ทำให้เราตกนรกตรงไหน ? และผิดประเพณีตรงไหน ?
ในเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีนั้นมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ยังไม่ทิ้งซึ่งแก่นแกนเดิม ๆ แล้วขณะเดียวกันก็อาศัยวาระ อาศัยโอกาสสำคัญ ก็คือช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เป็นเครื่องจูงใจให้ญาติโยมอยากจะทำสิ่งดี ๆ ให้กับตนเอง จะได้อาศัยกุศลนี้ก่อให้เกิดความคล่องตัวในชีวิตของเราต่อไปในภายภาคหน้า
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2024 เมื่อ 01:07
|