ช่วงเช้าหลังจากฉันเช้าแล้ว ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าไปถวายสักการะพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพสิทธิโสภณ (สุรสีห์ กิตฺติโสภโณ) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๘ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุเชิงชุม วรวิหาร กระผม/อาตมภาพกราบเรียนท่านว่า "มาทำการบวงสรวงเพื่อขออนุญาตในการบูรณะยอดส่วนที่ ๔ ขององค์พระบรมธาตุเชิงชุมครับ" หลวงปู่ที่ท่านร่างกายไม่ค่อยจะดียังอุตส่าห์มีการแซวติดตลกว่า "ขุดทองเองได้หรือ ?" กระผม/อาตมภาพเรียนถวายไปว่า "จังหวัดกาญจนบุรีแปลว่าเมืองทองครับ..!" ทุกคนก็เลยหัวเราะกันใหญ่
หลังจากนั้นกระผม/อาตมภาพก็ถวายสักการะต่อพระเดชพระคุณพระราชวชิราทร (วินัย สจฺจวํโส ป.ธ. ๕) เจ้าคณะจังหวัดสกลนคร แล้วก็ทักทายกับพรรคพวกเพื่อนฝูง ก็คือหลวงพ่อพระครูณรงค์ศักดิ์ (พระครูกิตติธรรมนิวิฐ) รองเจ้าคณะจังหวัดสกลนครอีกรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระวิปัสสนาจารย์ ๖๔ ด้วยกัน แล้วก็ชวนกันไปทำการบวงสรวงขออนุญาตอย่างเป็นทางการ โดยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณสุรสีห์ (พระเทพสิทธิโสภณ) ท่านเมตตาให้คนเข็นรถนำท่านออกไปนั่งเป็นประธานให้
เมื่อทำการบวงสรวงแล้วก็มีการเจริญพระพุทธมนต์ฉลอง ตามด้วยการแสดงของชมรมรักพระบรมธาตุ ซึ่งขนเอานางรำมาถึง ๑๕๐ คน..! ทำการฟ้อนภูไทยในเพลง "สกลนครบ้านเฮา" อย่างน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง หลวงพ่อเจ้าคุณวินัย (พระเดชพระคุณพระราชวชิราทร) เจ้าคณะจังหวัดสกลนครบอกว่า "ผมสนับสนุนให้นางรำทั้งหลายเหล่านี้ออกงานทุกครั้งที่มีโอกาส งานเล็ก ๆ แบบนี้ก็มา ๑๕๐ คน ถ้างานใหญ่ ๆ อย่างงานฉลองพระบรมธาตุเชิงชุม ก็มากัน ๔,๐๐๐ - ๕,๐๐๐ คน จนรอบลานพระบรมธาตุนี้แทบจะไม่มีที่ให้ยืน..!"
กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าตนเองนั้นถึงแม้ว่าจะสนับสนุนการแสดงของเด็ก ๆ ทุกโรงเรียนในอำเภอทองผาภูมิ แต่เมื่อเปรียบกับงานของหลวงพ่อเจ้าคุณวินัย ที่ท่านสามารถดึงเอาญาติโยมมาทีหนึ่ง ๔,๐๐๐ - ๕,๐๐๐ คนแบบนี้ เรื่องที่กระผม/อาตมภาพทำอยู่กลายเป็นเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ในงานของท่านเท่านั้น
เมื่อเสร็จจากการชมฟ้อนรำแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็นำเข้าไปในองค์พระบรมธาตุ ซึ่งมีพระพุทธรูปสำคัญที่องค์ในหลวง สมเด็จพระราชินี สมเด็จพระพันปีหลวง ได้ถวายบูชาองค์พระบรมธาตุเชิงชุมมา ตลอดจนกระทั่งพระธาตุก้อนข้าวก้นบาตรองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2024 เมื่อ 02:30
|