คราวนี้พวกเรามาขัดเกลาแล้ว เราต้องทบทวนให้แน่ใจด้วย พระพุทธเจ้าท่านมีญาณ ๓ อยู่ก็คือ
สัจจญาณ รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร ?
กิจจญาณ ทำให้ได้ตามความจริงนั้น ๆ
กตญาณ ทบทวนว่าเราได้จริงแล้วหรือไม่ ?
เพราะฉะนั้น..พระพุทธเจ้าท่านเป็นพระวิชชาสาม ท่านบอกว่า
ปฐมยาม ทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ด้วยทิพจักขุญาณอันประเสริฐ สามารถระลึกชาติย้อนหลังได้โดยไม่จำกัด
มัชฌิมยาม ทรงบรรลุจุตูปปาตญาณ ทราบว่าสัตว์ทั้งหลายก่อนเกิดมาจากไหน ? ตายแล้วจะไปไหน ? ด้วยทิพจักขุญาณอันประเสริฐล่วงมนุษย์ทั้งปวง ก็คือเจ๋งกว่าเขาทั้งหมดนั่นเอง
ปัจฉิมยาม ทรงบรรลุอาสวักขยญาณ ชำระจิตใจของพระองค์ท่านผ่องใสจากกิเลสทั้งปวง ปราศจากอาสวะโดยสิ้นเชิงแล้ว
พระพุทธเจ้าบรรลุแค่วิชชาสามเอง ไม่เห็นเรียนเยอะเลย..! พระอรหันต์ไล่ขึ้นไปก็มีพระสุกขวิปัสสโก พระวิชชา ๓ พระอภิญญา ๖ พระปฏิสัมภิทาญาณ ๔
มีผู้ตั้งคำถามว่า "พระพุทธเจ้าเป็นพระวิชชาสาม ทำไมสอนลูกศิษย์เป็นอภิญญากับปฏิสัมภิทาญาณเยอะแยะไปหมด ?" หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ตอบง่าย ๆ ว่า "วิชชาสามของช้างกับอภิญญาของมด..!" มดถึงจะเจ๋งขนาดไหน..เผลอเมื่อไรโดนช้างทับก็แบนแต๋..!
เพราะฉะนั้น..อย่าเสียเวลาไปสงสัย คำว่า "พุทธวิสัย" ไม่ใช่สิ่งที่เราจะเข้าถึงได้ เพราะว่าพระองค์ประกอบด้วยทศพลญาณ ญาณทั้ง ๑๐ ประการ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2024 เมื่อ 01:36
|