ดูแบบคำตอบเดียว
  #15  
เก่า 19-12-2024, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้พวกเรามาขัดเกลาแล้ว เราต้องทบทวนให้แน่ใจด้วย พระพุทธเจ้าท่านมีญาณ ๓ อยู่ก็คือ
สัจจญาณ รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร ?
กิจจญาณ ทำให้ได้ตามความจริงนั้น ๆ
กตญาณ ทบทวนว่าเราได้จริงแล้วหรือไม่ ?

เพราะฉะนั้น..พระพุทธเจ้าท่านเป็นพระวิชชาสาม ท่านบอกว่า

ปฐมยาม ทรงบรรลุปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ด้วยทิพจักขุญาณอันประเสริฐ สามารถระลึกชาติย้อนหลังได้โดยไม่จำกัด

มัชฌิมยาม ทรงบรรลุจุตูปปาตญาณ ทราบว่าสัตว์ทั้งหลายก่อนเกิดมาจากไหน ? ตายแล้วจะไปไหน ? ด้วยทิพจักขุญาณอันประเสริฐล่วงมนุษย์ทั้งปวง ก็คือเจ๋งกว่าเขาทั้งหมดนั่นเอง

ปัจฉิมยาม ทรงบรรลุอาสวักขยญาณ ชำระจิตใจของพระองค์ท่านผ่องใสจากกิเลสทั้งปวง ปราศจากอาสวะโดยสิ้นเชิงแล้ว

พระพุทธเจ้าบรรลุแค่วิชชาสามเอง ไม่เห็นเรียนเยอะเลย..! พระอรหันต์ไล่ขึ้นไปก็มีพระสุกขวิปัสสโก พระวิชชา ๓ พระอภิญญา ๖ พระปฏิสัมภิทาญาณ ๔

มีผู้ตั้งคำถามว่า "พระพุทธเจ้าเป็นพระวิชชาสาม ทำไมสอนลูกศิษย์เป็นอภิญญากับปฏิสัมภิทาญาณเยอะแยะไปหมด ?" หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ตอบง่าย ๆ ว่า "วิชชาสามของช้างกับอภิญญาของมด..!" มดถึงจะเจ๋งขนาดไหน..เผลอเมื่อไรโดนช้างทับก็แบนแต๋..!

เพราะฉะนั้น..อย่าเสียเวลาไปสงสัย คำว่า "พุทธวิสัย" ไม่ใช่สิ่งที่เราจะเข้าถึงได้ เพราะว่าพระองค์ประกอบด้วยทศพลญาณ ญาณทั้ง ๑๐ ประการ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2024 เมื่อ 01:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา