คลังหลวง หัวใจของชาติ
"คลังหลวง" เป็นถ้อยคำที่องค์หลวงตาใช้เรียก มีชื่อเป็นทางการว่า "ทุนสำรองเงินตรา" ประกอบด้วยบัญชีทั้ง ๓ บัญชี ได้แก่ ๑. บัญชีทุนสำรองเงินตรา ๒. บัญชีผลประโยชน์ประจำปี ๓. บัญชีสำรองพิเศษ
องค์หลวงตาท่านพยายามเน้นย้ำบอกเดือนชาวไทยให้รู้ซึ้งถึงคุณค่าและรู้จักรักหวงแหน "คลังหลวง" ยิ่งชีวิต เมื่อได้ศึกษาย้อนหลังเกี่ยวกับความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ ก็ยิ่งเข้าใจในคำสอนขององค์ท่านมากขึ้น และดูเหมือนองค์ท่านจะเล็งเห็นสายทางความเกี่ยวโยงอันลึกซึ้งกับสถาบันกษัตริย์ ในฐานะทรงเป็นเจ้าของพระราชทรัพย์ในคลังหลวง ทรงริเริ่มก่อตั้ง วางรากฐานและเก็บรักษาสืบต่อกันมายาวนาน รุ่นแล้วรุ่นเล่า จึงไม่มีถ้อยคำใช้เรียก "ทุนสำรองแผ่นดิน" คำใดจะเหมาะสมแม่นยำ บ่งบอกถึงความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ตรงกับคุณค่าและความหมายที่รอบด้านเหมือนกับคำว่า "คลังหลวง" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่องค์หลวงตาใช้เรียกตั้งแต่วันแรกที่ประกาศเป็นผู้นำกอบกู้ชาติ นับเป็นความอัศจรรย์อย่างหนึ่งเลยทีเดียว
ช่วงต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะศิษย์ได้กราบเรียนถามองค์หลวงตาที่กุฏิ ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ ว่า การที่ท่านก่อตั้งโครงการช่วยชาติ รวบรวม "เงินบริจาคในโครงการช่วยชาติ" เข้าสู่ "คลังหลวง" นั้น มีเจตนารมณ์เพื่อเพิ่มพูนสินทรัพย์ในคลังหลวง และต้องการปกป้องหวงแหนเฉพาะ "เงินบริจาคในโครงการฯ" เท่านั้น หรือต้องการปกปักรักษา "สินทรัพย์ทั้งหมดในคลังหลวง" ด้วย
องค์ท่านตอบทันทีว่า "รักษาสมบัติในคลังหลวงทั้งหมด" คณะศิษย์ถามต่อว่า"หากเปรียบคลังหลวงเป็นน้ำในโอ่ง เงินบริจาคของหลวงตาก็คือน้ำมนต์ในขัน ซึ่งหลวงตาต้องการเอาน้ำมนต์ในขัน เทรวมเข้ากับน้ำในโอ่ง เพื่อทำให้น้ำในโอ่งคลังหลวงทั้งหมดเป็นน้ำมนต์ มีความศักดิ์สิทธิ์ตามไปด้วย จะได้ไม่มีใครกล้าแตะต้อง เท่ากับหลวงตาต้องการรักษาโอ่งน้ำคลังหลวงให้อยู่คู่บ้านคู่เมืองตลอดไปใช่หรือไม่ ?"
องค์หลวงตาตอบว่า "เข้าใจถูกแล้ว หลวงตาต้องการรักษาคลังหลวง ไม่อยากให้ใครมาแตะต้องเพราะคลังหลวงคือหัวใจของชาติ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2024 เมื่อ 20:04
|