ต้องบอกว่าความ "พอดี" แบบนี้มีอยู่เสมอ ๆ ซึ่งพระเกจิอาจารย์อื่นท่านไม่ค่อยจะ "พอดี" กัน เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้น มีพระ มีพรหม มีเทวดา หรือครูบาอาจารย์สงเคราะห์ ถ้าท่านบอกว่า "เต็มแล้ว" ก็คือเต็มแล้ว "พอแล้ว" ก็คือพอแล้ว "ให้ทำน้ำมนต์" ก็รีบทำน้ำมนต์ ตอนอธิษฐานจิตพรมน้ำมนต์ให้ว่าคาถาบทไหน ก็ต้องว่าไปตามนั้น
งานนี้ยังมีพิเศษที่ท่านให้เทน้ำมนต์ลงไปในถังใบมหึมา ๓ - ๔ ใบที่ทางเจ้าภาพเตรียมไว้ เพื่อที่จะให้บรรดาผู้ที่มาเข้าพิธีสวดภาณยักษ์ได้นำไปใช้รักษาโรคประหลาดต่าง ๆ ที่ทางแพทย์สมัยใหม่รักษาไม่ได้ แล้วคนหัวใหม่ก็สงสัยว่า "ทำไมน้ำมนต์ถึงรักษาโรคได้ ?"
ต้องบอกว่าร่างกายของคนเรานั้นเป็นน้ำถึง ๗๐ เปอร์เซ็นต์ ในเมื่อน้ำในร่างกายเสียก็ต้องเอาน้ำดีเติมเข้าไป แม้ว่าการเติมน้ำดีนั้น บางทีก็ไม่ได้ดื่มเข้าไป แค่พรมภายนอกเท่านั้น ก็ทำให้น้ำเสียส่วนใหญ่ในร่างกายกลับกลายเป็นน้ำดี อาการเจ็บไข้ได้ป่วยจากน้ำเสียก็เลยหายไปด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ดังนั้น..ท่านใดที่ไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่านเถิด เนื่องเพราะว่าบุคคลที่เชื่อถือและหายป่วยจากโรคประหลาดที่แพทย์สมัยใหม่ไม่สามารถจะหาสาเหตุได้นั้น มีมากต่อมากด้วยกัน
ครั้นรับไทยธรรมและบอกลาพระอธิการอำนาจ เตชธโรแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางกลับสู่ที่พัก เพื่อเตรียมที่จะไปรับภารกิจต่อไป
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2024 เมื่อ 02:35
|